1. ฉันทำได้
ปัญหาของหลายๆคนคือการคิดว่าตัวเอง “ทำไม่ได้” และทำให้ต้องพลาดโอกาสในชีวิตหลายๆอย่าง แม้ว่าจริงๆแล้วเราไม่สามารถเป็นทุกอย่างได้ แต่การบอกตัวเองให้อยู่ในทัศนคติว่า
“ทำได้” ก็ทำให้คุณกล้าที่จะลองกับมันสักตั้ง นอกจากนี้แล้วในเชิงจิตวิทย านั้น การที่คุณคิดว่าคุณทำได้ก็จะมีโอกาสสูงที่คุณจะทำได้ เช่นเดียวกับโอกาสที่คุณจะรีดเร้นความสามารถ
ออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นต่างจากการที่คุณจะบอกตัวเองว่า “ทำไม่ได้” ซึ่งเรียกว่าปิดประตูตั้งแต่เริ่มแล้วนั่นแหละ
เวลาที่ควรใช้: เจอปัญหา หรืองานใหม่ที่ถูกมอบหมายมาให้ซึ่งดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา
2. ฉันผิดเอง
การยอมรับว่าตัวเองผิดอาจจะฟังดูเป็นการมองแง่ลบ แต่เชื่อเถอะครับว่าการบอกตัวเองให้รับผิดชอบนั้น เป็นก้าวสำคัญของการเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เช่นเดียวกันนั้น การบอกตัวเองว่า
มีส่วนในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็จะทำให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ต้องทำ และทำให้คุณได้มุมมองใหม่แทนที่จะมองว่าคุณไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมัน หรือทำตัวลอยเหนือปัญหา ซึ่งนั่น
จะทำให้คุณไม่ได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้น
เวลาที่ควรใช้: เวลาเกิดปัญหาขึ้น มีความพลาดกับงานที่ทำ
3. เราจะทำอะไรได้อีก
แม้ว่างานที่คุณทำอาจจะเสร็จไปแล้ว แต่มันอาจจะยังไม่ได้สำเร็จหรือมีประสิทธิภาพสูงสุด ทัศนคติที่จำเป็นคือการพยายามคิดว่าคุณจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นไปอีก แม้อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดู
เหนื่อยและสร้างภาระเพิ่มให้กับตัวเอง แต่หลายๆครั้งนั้นจะเป็นโมเมนต์สำคัญที่ทำให้งานของคุณก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง รวมทั้งตัวคุณเองด้วย
เวลาที่ควรใช้: ทำงานเสร็จแล้วแต่ก็ยังมีเวลาให้ปรับปรุงหรือแก้ไข หรือเมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีเวลาว่างมากขึ้น
4. แล้วไง?
หลายๆ ครั้งในชีวิตของเราจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ข้ออ้าง” หรือ “ข้อแก้ตัว” ให้กับตัวเองอยู่เสมอเพื่อทำให้ตัวเราไปอยู่ในจุดที่สบายและไม่ต้องเดือดร้อนทั้งที่จริงๆ แล้วมันทำให้เราสูญเสียโอกาส
หลายๆอย่าง การเลือกสวนตัวเองกลับเพื่อให้คว้าสิ่งที่ดีกว่า (แม้ว่าอาจจะต้องเหนื่อยเพิ่มกว่าเดิม) ก็เป็นเรื่องที่ควรทำเช่นกัน
เวลาที่ควรใช้: เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีข้อแก้ตัวต่างๆ มาให้ไม่ทำสิ่งดีๆ หรือสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิตคุณ
5. ก้าวต่อไปคืออะไร?
เมื่อคุณพาตัวเองมาถึงจุดๆหนึ่งได้นั้น แรกๆคุณก็จะมีความสุขกับมันและหลายๆ ครั้งก็ทำให้ตัวเองรู้สึกว่า “พอแล้ว” จนไม่อยากจะเรียนรู้ใหม่หรือทดลองสิ่งอื่น มันอาจจะเป็นการพูดที่ดูกดดัน
ตัวเองบ้าง แต่คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่พย ายามพลักดันตัวเองไปสู่จุดที่สูงขึ้นกว่าจุดที่อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิมเร็วขึ้น หรือไปสู่ระดับที่ท้าทายกว่าเดิม วิธีการแบบนี้
คือทำให้ตัวเขาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอและกว่าจะรู้ตัวอีกที เขาก็จะไปไกลกว่าจุดที่เขาเคยคิดว่าอยากไปเสียอีก
เวลาที่ควรใช้: เมื่อคุณทำบางอย่างสำเร็จแล้ว หรือเมื่อคุณทำอะไรบางอย่างจนเริ่มเคยชินมากเกินไป
6. ไม่เป็นไรนะ
ใครๆก็ทำเรื่องผิดพลาดกันได้ แต่มันไม่ใช่ว่าคุณจะต้องจมไปกับความผิดพลาดนั้นอยู่จนลุกไม่ขึ้นหรือกลายเป็นโ ซ่ ต ร ว นที่ยึดคุณไว้ การบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรก็เป็นสิ่งที่คุณควรจะทำเพื่อ
ยกโทษให้ตัวเอง มองตัวเองให้มีคุณค่าเพื่อที่จะได้ลุกแล้วก้าวต่อไปนั่นแหละ
เวลาที่ควรใช้: เวลาคุณรู้สึกผิดกับเรื่องบางเรื่องจนท้อหรืออยากเลิกทำงานนั้นๆ
7. เราไม่ได้อยู่คนเดียว
เวลาที่เราเจอปัญหารุมเร้านั้นหลายๆครั้งจะพลักดันให้เราอยู่ในภาวะที่คิดว่าเราโดดเดี่ยว หรือไม่มีใครเข้าใจเราทั้งที่จริงๆมันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น มันจึงจำเป็นที่คุณต้องพย ายามพาตัวเอง
ออกจากกล่องดำโดยเร็ว เตือนตัวเองว่าคุณยังมีคนอื่นๆ ที่อยู่เคียงข้างคุณ มีคนที่รักคุณ มีคนที่แคร์คุณ หรือแม้แต่กับปัญหาเรื่องงานนั้นก็ยังมีเพื่อนร่วมงานคุณอยู่ สิ่งนี้สำคัญเพื่อเลี่ยงการให้
คุณกลายเป็นโร คซึ มเ ศ ร้ าหรือจมอยู่กับความเค รี ย ดมากเกินไป
ขอบคุณที่มา : j o b b k k