Home ข้อคิด 9 เทคนิค ที่หัวหน้าควรรู้ ทำอย่างไร ที่จะมัดใจลูกน้องให้อยู่หมัด

9 เทคนิค ที่หัวหน้าควรรู้ ทำอย่างไร ที่จะมัดใจลูกน้องให้อยู่หมัด

12 second read
0
0
3,256

ไม่มีใครอยากเปลี่ยนงานบ่อยโดยไม่มีเหตุจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนในแผนกใดขององค์กรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ใครก็อยากอยู่กันแบบครอบครัว มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเรื่อย ๆ แต่เพราะ

แต่ละคนมีที่มาไม่เหมือนกัน นิสัยใจคอไม่เหมือนกันนี่สิ การปรับตัวเลยยากกันสักหน่อย บ่อยครั้งตำแหน่งสูง ๆ ก็ต้องใช้อำนาจลงมาจัดการบ้างเพื่อให้แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี

บางครั้งก็ไม่อยากจะทำเลยเพราะดูเหมือนเป็นการฝืนใจกัน แต่เพื่อให้งานเดินต่อไป จะทำไงได้? ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเจ้านายจะใช้อำน า จเพื่อควบคุมลูกน้อง แต่ก็ต้องบาลานซ์ความ

เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ด้วย อย่าลืมว่าเราทำงานกับคน ไม่ใช่เครื่องจักรที่ป้อนคำสั่งแล้วเป็นอันจบ เราต้องมีการซื้อใจกันเพื่ออยู่ด้วยกันไปนาน ๆ

หัวหน้าที่ดีคืออะไร? เจ้านายที่ดีเป็นแบบไหน? ในแต่ละคนคงมีอุดมคติที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วใครก็อยากได้เจ้านายในแบบนี้

1. วันหยุด-วันลายาว : บอกมาได้เลยว่าอยากได้ช่วงไหน จะให้ลาได้เต็มที่ แต่ต้องบอกกันล่วงหน้านะ เพื่อจะได้บริหารงาน บริหารคนได้ถูกระหว่างที่คุณไม่อยู่ เราเข้าใจดีว่าคุณก็ต้องการ

ผ่อ นคลายบ้าง ร่า งกา ยคนเรามันก็ต้องมีล้ามีเหนื่อยสะสมจากการทำงานมาเป็นปีบ้าง

2. ตรงไปตรงมา ผลักดันลูกน้องที่มีศักยภาพ : คุณไม่ต้องเลี ยแข้ งเลี ย ประจบประแจงเราเพื่อให้ได้มาซึ่งความก้าวหน้า เราดูออกว่ามันเฟค เอาใจแลกใจกันดีกว่า ตรงไปตรงมา

คุณอยากได้อะไรบอกเรา คุณคิดว่าเราบกพร่องตรงไหนบอกมา ถ้าคุณทำงานเก่ง ฉายแววให้เราเห็น เราจะช่วยผลักดันคุณให้เก่งไปอีก อาจจะส่งไปเทรนด์งานต่างประเทศ

หรือฝึกสกิลอื่นเพิ่มก็ว่ากันไป

3. ให้เครดิตลูกน้อง : ถ้ามันเป็นฝีมือคุณจริง ๆ ไม่ได้ลอกใครมา เราพร้อมจะขอบใจคุณ ถ้าคุณทำงานมาเป็นทีมก็บอกว่ามันเป็นผลงานของ “เรา” บอกกันตามตรง อย่าดิสเครดิตกัน

การทำงานมันก็ต้องมีคละกันทำเดี่ยวทำเป็นทีมกันบ้าง เราดูออก

4. เรียกมาคุย : ปัญหาไหนที่เราเห็นก่อน เราจะไม่รอให้คุณมาฟ้องก่อน เราจะเรียกมาคุยเลยว่าคุณโอเคมั้ย? ไหวป่าว? มีปัญหาอะไรมั้ย? เคลียร์กันตรง ๆ แมน ๆ ไม่นอกประเด็น

5. ใครจะใช้เด็กเรา : กรุณามาคุยกับเราก่อน เราไม่อยากให้ลูกน้องเราเหนื่อยเพิ่มโดยไม่จำเป็น เพราะแต่ละคนย่อมมีหน้าที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว

6. เราพร้อมจะเถียงและออกหน้าแทนลูกน้อง : หากพิสูจน์ได้ว่ามันไม่แฟร์กับพวกเขาจริง ๆ พร้อมจะงัดหลักฐานมาสู้กันให้เป็นประจักษ์ทุกสายตา แต่ถ้าลูกน้องเราผิดจริง เราก็พร้อม

จะตักเตือน ถามที่มาที่ไป ให้ขอโทษอีกฝ่ายซะ

7. เราพร้อมจะลุยงานกับลูกน้อง : การเป็นหัวหน้า ไม่ได้แปลว่าต้องรับผิดชอบเฉพาะงานระดับสูงแต่เพียงอย่างเดียว งานเล็กน้อย งานกรรมกรก็ต้องทำได้อย่างไม่มีข้อแม้ ไม่จำเป็น

ต้องรอใครก่อนเมื่อมีโอกาสทำได้ คิดซะว่าช่วย ๆ กันไป หรือใครมีปัญหาติดขัดที่ตรงไหน ก็เดินเข้ามาขอคำปรึกษาได้เลย อย่าลุยคนเดียวโดยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ไม่อย่างนั้น

คุณจะไม่มีทางได้พัฒนาฝีมือ

8. กระจายงาน : ให้ทุกคนได้ทำงานตามศักยภาพแบบพอดี ไม่ให้ใครทำงานหนักเกินไป overload มากไป ทุกงานต้องชัดเจน เท่าเทียม และต้องมีการกำหนดไว้ด้วยว่าจะให้ใคร back up

ใคร ในกรณีที่อีกคนป่ ว ย ลา มีเหตุฉุ กเฉิ นที่ไม่สามารถทำงานได้

9. อย่างน้อยมีช่วงเวลาสานสัมพันธ์กัน เช่น ทำอ าห า รมาเลี้ยงกัน, ชวนกันไปแฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน ทุกคนจะได้สนิทกันมากขึ้น รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน อยากอยู่กับทีม

ไปนาน ๆ เวลาทำงานจะได้กล้าพูดกล้าคุยกันได้มากขึ้น

ขอบคุณที่มา : w o r k p o i n t t o d a y .

Load More Related Articles
Load More By FahFah FahFah
Load More In ข้อคิด

Check Also

คนที่มีความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ทำไมมักมีสิ่งที่มองไม่เห็น คอยช่วยเสมอ

พ่อแม่ของเรา มีพระคุณเหนือกว่าขุนเขา เหนือกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ แม้จะเอาแบกไว้ไหล่ซ้าย ขวา ทั…