1. เริ่มต้นจากการมีจิตใจที่แข็งแรง
ความมั่นใจในตนเองเป็นสภาวะจิตใจอย่างหนึ่งที่เสริมสร้างได้โดยการหาเวลาทำกิจกรรมที่จะช่วยให้จิตใจร่า งกา ยและจิตวิ ญญา ณของคุณแข็งแรง (ด้วยเวลาเพียงหนึ่งชั่ วโมงต่อวัน)
เช่น การอ่านหนังสือ การออกกำลังกาย และการนั่งสมาธิในยามเช้า หากคุณไม่ให้เวลาและความสำคัญกับจิตใจตัวเองซะบ้าง ก็แปลว่าคุณกำลังยอมให้คนหรือสิ่งอื่นมีอิทธิพลในการหล่อหลอม
ความคิดจิตใจแทนที่จะเป็นตัวคุณเอง
2. เลิกให้ความสำคัญกับความคิดลบๆ
จิตวิทย าสาขาใหม่ได้ชี้ให้เห็นความสำคัญของการมีสติและอยู่กับปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีการเปรียบเทียบว่า ความคิดแย่ๆ และการขาดความมั่นใจที่เกิดขึ้นในหัวเรานั้นก็เหมือนกับสิวบนใบหน้า
หากเรายิ่งไปสะกิดมันหรือไปบีบมันเพราะหวังว่ามันจะหายได้เร็วขึ้น ผลที่ได้มากับกลายเป็นว่าอาการยิ่งแ ย่ลงทั้งยังทิ้งรอยแผ ลเป็นไว้อีกด้วย เพราะฉะนั้นการมีสติและอยู่กับปัจจุบันนั้น
จึงเป็นสิ่งสำคัญและยังสอนให้มองความคิดเป็นดั่งเครื่องมือในการใช้ชีวิต ความคิดไหนที่ดีช่วยส่งเสริมให้ชีวิตเราดีขึ้นก็เก็บเอาไว้ ส่วนความคิดไหนที่เราไม่ต้องการก็ทิ้งไปมันเสีย
3. พาตัวเองเข้าไปหาสถานการณ์จริง
การเข้าค อ ร์ สอบรมหรือการฝึกมีมนุษยสัมพันธ์จะช่วยผลักดันให้คุณเติบโตและพัฒนาขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งเป็นไปได้ว่าความมั่นใจและความถ่อมตัวของคุณก็จะเพิ่มขึ้นพร้อมๆ กันด้วย
โดยปัจจุบันมีคอร์สอบรมต่างๆ มากมายหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น ค อ ร์ ส บำบัดปัญหาชีวิต นักพูด ไปจนถึง การเป็นผู้นำ ก็ช่วยฝึกให้คุณพัฒนาตัวเองอย่าง
สม่ำเสมอและยังเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มความมั่นใจในตัวเองด้วย
4. รักษาอาการรู้สึก ‘เก่งไม่จริง’ (Impostor syndrome)
หลายคนต้องเคยประสบกับความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ หรือ อาการที่เรียกว่า Impostor syndrome เป็นความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งจริง ไม่คู่ควรกับความสำเร็จ หรือความสำเร็จที่ได้
มานั้นเป็นเพราะโชคช่วย ในการที่จะก้าวข้ามความกลัวดังกล่าว คุณจะต้องยอมรับในความสำเร็จด้วยใจจริง และพูดคุยกับเพื่อนหรือคนใกล้ชิดให้มากเพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
5. การแต่งตัวก็เป็นสิ่งสำคัญ
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “การแต่งตัวสุภาพถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตาม ให้คุณแต่งตัวให้เหมาะสมแก่ระดับลูกค้าที่คุณอยากทำธุรกิจด้วย” ถึงแม้จะต้องนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน
ก็ตาม แต่คนที่จะประสบความสำเร็จที่สุด มักจะตื่นแต่เช้าและแต่งตัวเหมือนพร้อมที่จะออกไปทำงานอยู่เสมอ เห็นได้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของคนเหล่านั้นด้วย
เพราะเมื่อคุณคิดว่าตัวเองดูดี คุณก็จะรู้สึกมีความสุข และมีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วยนะ
6. ลงเรียนคอร์สฝึกไหวพริบ (Improvisation class)
การลงเรียนค อ ร์ ส ฝึกไหวพริบ ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ได้อย่างลื่นไหล คุณจะได้มีโอกาสฝึกพูดบนเวทีซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่คุณ การอยู่ต่อหน้าฝูงชน
ช่วยฝึกให้คุณคิดและตอบสนองต่อสถานการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหล่านี้ล้วนนำไปใช้กับการทำงานในชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี
7. สร้างภาพจดจำ แบรนด์บุคคล(Personal brand) ที่มีคุณภาพให้ตนเอง
ส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจในตัวเองคือ การสร้างภาพจดจำ หรือสร้างแบรนด์ให้ตัวเอง เช่น การสร้างสรรค์และเผยแพร่เ นื้ อหาที่น่าสนใจลงบล็อค เฟสบุ้ค หรือวิดีโอก็ได้ทั้งนั้น และ
ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ หากว่าสิ่งที่คุณไม่ค่อยมีใครสนใจมากนักในตอนแรก แค่การที่คุณมีชิ้นงานที่เป็นรูปเป็นร่างนั้น กล้าเผยแพร่ความมั่นใจในตัวเองออกมา ก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจและ
สร้างความมั่นใจให้กับคุณได้แล้ว
8. เห็นคุณค่าของตัวเองจากตัวตนที่แท้จริง
ความมั่นใจของคุณต้องมาตัวตนที่แท้จริงของคุณ ไม่ใช่จากความสำเร็จในด้านหน้าที่การงาน เพราะฉะนั้นลองทำความเข้าใจและพัฒนาตัวเอง โดยอาจเริ่มต้นด้วยการเป็นอาสาสมัครเพื่อ
บริการสังคม การทำสมาธิ การออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ หรือการสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน อะไรก็ได้ที่จะทำให้คุณเห็นค่าและความสามารถของตัวเองมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณที่มา : s u m r e j
