1.ขอเวลาตัดสินใจ
บางกรณีก็ยากจริงๆ ที่จะพูดว่าให้ยืมเงินไม่ได้ เช่น เพื่อนสนิท ญาติหรือคนในครอบครัว ที่ต้องเจอหน้ากันทุกวัน ถ้ารู้สึกโดนต้อนจนจนมุมมากๆ ลอง “ขอเวลา” คนยืมเงินว่า ขอฉัน
คิดดูก่อนนะการยืมเงินเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ พวกเขาเองก็รู้ดีไม่งั้นคงไม่บากหน้ามาขอยืมเงิน ถ้าคนมีมารยาทจริงๆ จะเข้าใจว่าคนถูกยืม มีสิทธิคิดได้ว่าจะให้ยืมเงินดีหรือไม่แต่ถ้าคุณ
พูดว่าขอคิดดูก่อนนั่นหมายถึง การเปิดโอกาสการให้ความหวังคนที่ยืมนะคะ ดังนั้น ต้องบอกพวกเขาด้วยว่าขอเวลานานแค่ไหนแล้วกลับไปคิดจริงๆ ว่ามีเงินพอจะให้ยืมหรือไม่
ให้เวลายืมได้นานแค่ไหนแล้วถ้าเขายืมเงินไม่คืน มีผลกระทบกับความสัมพันธ์แค่ไหนด้วย
2.แสดงออกชัดเจนว่าไม่ให้ยืมเงิน
วิธีรับมือ เพื่อนยืมเงินวิธีแรกบอกให้ชัดเจนไปเลย ว่าไม่ให้ใครยืมเงิน ตั้งแต่ต้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติพี่น้องเมื่อเราชัดเจนว่าไม่ให้ยืมเงินตั้งแต่แรก มันก็ง่ายที่จะปฏิเสธ โดย
ไม่จำเป็น ต้องมีข้ออ้างหรือเหตุผลอะไรอีกวิธีนี้เหมาะกับคนที่มีวินัย ในการใช้ชีวิตระดับหนึ่งนะคะ คือพึ่งพาตัวเองเป็นรู้จักดูแลตัวเองเพราะถ้าเราไม่ให้ใครยืม เราก็ไม่ควรจะไปยืมเงิน
หรือไหว้วานคนอื่นเช่นกันค่ะ
3.พูดตรงๆ และสั้นๆ
ตอนที่บอกปฏิเสธเพื่อนยืมเงิน ไม่ต้องอธิบายสถานะทางการเงินของคุณ เช่นตอนนี้ ฉันมีแพลนใช้เงินเรียนต่อโท ด้านบริหารธุรกิจฉันจะเอาเงินไป ศั ล ย ก ร ร ม ที่เกาหลี ฯลฯ ไม่ให้
ก็คือไม่ให้ คนยืมเงินอยากได้แค่เงินถ้าไม่ได้เงิน ก็ไม่ได้ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นและเป็นสิทธิของเราด้วยที่จะไม่พูด แต่ถ้ากลัวว่าบทสนทนาจะตัดรอนกันเกินไปลองปฏิเสธแบบสุภาพ
แบบนี้ดูค่ะ “ฉันไม่มีเงินพอให้ใครยืมได้เลยช่วงนี้” “ฉันไม่ค่อยสบายใจเรื่องการให้ยืมเงินน่ะ” “ขอโทษนะแต่ให้ยืมไม่ได้จริงๆ”ประโยคเหล่านี้ตรงไปตรงมาแต่ไม่ ห ย า บ ไม่ห้วน
ไม่ตัดรอนจนเกินไปและไม่ได้เปิดช่อง ให้คนมาขอยืมเงินได้อีกด้วย ในอนาคต ให้จำไว้เสมอว่ามันเป็นเงินของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายสถานะหรือวิธีการใช้เงินของคุณกับใคร
โดยเฉพาะคนที่จะยืมเงินของคุณ
4.ให้ยืมแบบไม่หวังได้คืน
ถ้าจนแล้วจนรอด ยังไงก็รู้สึกว่าเพื่อนยืมเงินหรือคนยืมเงินคนนี้ เราต้องช่วยจริงๆ ไม่ให้ไม่ได้จริงๆ ลองหาวิธีให้แบบที่เราคิดเสียว่าให้เงิน เป็นของขวัญไปเลย เช่น ใกล้วันเกิดของ
เพื่อนยืมเงินหรือคนยืมเงินคนนี้ ก็ให้เงินเขา ยืมแล้วก็บอกเขาไปเลยว่างั้นให้เป็นของขวัญวันเกิดแล้วกันนะ หรืออาจจะให้เป็นบัตรของขวัญวอยส์เชอร์ซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต
พวกเขาจะได้เก็บเงิน ไปใช้จ่ายด้านอื่นที่จำเป็นมากกว่าแทนวิธีนี้เป็นวิธีการช่วยเรื่องเงิน ที่ลดความกระดากอายระหว่างกันได้มากเลยทีเดียวค่ะ
5.เสนอความช่วยเหลือในรูปแบบอื่น
นอกจากพูดว่า “ไม่” เราสามารถ ช่วยเหลือเพื่อนยืมเงินหรือคนที่มายืมเงิน ในรูปแบบอื่นได้ เช่น ถ้าพวกเขาไม่มีเงิน เพราะไม่มีงานทำก็ช่วยหางานให้พวกเขาทำทำอาหารเผื่อพวกเขา
พวกเขาจะได้ประหยัดเงินค่าอาหาร หรือหาวิธีกู้เงินวิธีอื่นให้พวกเขาแทน เช่น กู้เงินธนาคาร เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาขอยืมเงิน เราถ้าไม่ได้เงินพวกเขาอาจจะไม่ได้ต้องการ
วิธี หรือความช่วยเหลือแบบอื่น ดูท่าทีของพวกเขาก่อนจะให้คำแนะนำด้วย
6.ไม่เปิดเผยข้อมูลทางการเงินของตัวเอง
ถ้าต้องการลดแรงกดดัน หรือโอกาสที่เพื่อนยืมเงิน จะแวะมาเยี่ยมเยียนคุณ การไม่เที่ยวบอกใครว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ มีเงินเก็บที่ไหนบ้าง มีทรัพย์สินหนี้สินเท่าไหร่ และอย่างไรคือ
สิ่งที่คุณควรทำ ถ้ามีใครถามเรื่องเงินอาจจะพูดแบบกลางๆ ว่า “ก็พออยู่ได้จ้ะ” หรือ “พอมีพอกินเฉยๆ” ไม่ต้องบอกตัวเลขโต้งๆ ว่ามีเงินสำรอง ฉุ ก เ ฉิ น ในบัญชีสามล้านบาท เพราะมัน
จะกลายเป็นสัญญาทางสังคม รอบตัวคุณอย่างหนึ่งทันทีว่าเงิน ฉุ ก เ ฉิ น นี้อาจหมายถึงพอให้เพื่อนยืมเงิน อย่างฉุกเฉินก็เป็นได้ก่อนจากกันจำไว้อย่างหนึ่งว่าเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร
ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัว หรือไกลตัว ดังนั้นถ้าไม่อยากเจอเคส เพื่อนยืมเงินไม่คืนก็อย่าด่วนปากเร็วตัดสินใจเร็วและให้ใครยืมเงินทุกครั้ง ควรเก็บหลักฐานเช่น อัดคลิปเสียงวิดีโอ
หรือเซ็นสัญญายืมเงินทุกครั้ง
ขอบคุณที่มา : s h o p b a c k