ความเชื่อนั้นเปรียบเสมือนเข็มทิศ การมีความเชื่อที่ผิดย่อมทำให้ชีวิตหลงทาง เรื่องการเงินก็เช่นกัน หากเรามีความเชื่อที่ผิด อาจนำพาไปสู่หนี้ก้อนโต ก่อนที่จะสายเกินไป
กรุงศรีขอชวนทุกคนมาสำรวจกันว่า เรามีความเชื่อเรื่องการเงินผิดๆ อยู่หรือเปล่า ไป อ่ า น กันเลย…
1.ต้องมีบ้าน มีรถ เป็นของตัวเองไวๆ
การซื้อบ้าน หรือรถ หากเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือใช้งาน โดยไม่ก่อให้เกิดรายได้ จัดเป็นการสร้างภาระ ไม่ใช่การลงทุน ยิ่งการกู้เงินไปซื้อ นอกจากจะไม่สร้างรายได้แล้ว
ยังสร้างภาระดอกเบี้ยเงินผ่อน นอกจากนี้การซื้อบ้าน หรือรถ ยังจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามมาอีกมาก ดังนั้น ใครที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือยังไม่พร้อมจริงๆ ก็ยังไม่จำเป็น
ต้องมีบ้าน หรือรถ เป็นของตัวเอง
2.ซื้อเงินผ่อนสิดี จะจ่ายเงินก้อนโตไปทำไม
การใช้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต เราสามารถเลือกผ่อน 0% โดยไม่เสียดอกเบี้ยได้ ดังนั้นถ้าเรามั่นใจว่าจะจ่ายค่าผ่อนได้ครบ ตรงเวลาทุกงวด การซื้อแบบผ่อนก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
การซื้อเงินสดเพราะเราไม่ต้องจ่ายเงินก้อนในคราวเดียว สามารถเอาเงินส่วนนั้นไปฝากเพื่อรับดอกเบี้ย หรือลงทุนให้งอกเงยก่อนได้ แต่ถ้าเราไม่มั่นใจว่าจะมีวินัยจ่ายได้ครบและ
ตรงเวลา การเก็บเงินแล้วค่อยซื้อด้วยเงินสด ก็จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
3.ค่า บั ต ร เ ค ร ดิ ต จ่ายแค่ขั้นต่ำก็พอแล้ว
เป็นความเชื่อที่ผิดมาก เพราะการจ่ายแค่ขั้นต่ำ หลังจากวันครบกำหนด ดอกเบี้ยจะถูกคิดเป็นรายวัน จนกว่าเราจะจ่ายเงินครบ ดังนั้นถ้าไม่อยากอยู่ในวงจรดอกเบี้ย บั ต ร เ ค ร ดิ ต
ควรจ่ายแบบเต็มจำนวนทุกครั้ง
4.ราคาถูกขนาดนี้ ซื้อ ๆ ไปก่อน เดี๋ยวก็ได้ใช้
ของที่ซื้อมา แม้จะมีราคาสูงแต่ถ้าได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า ก็ยังดีกว่าของราคาถูกที่ซื้อมาแล้วไม่เคยได้ใช้เลย หรือกว่าจะได้ใช้ของก็เสื่อมสภาพไปแล้ว เหมือนเสียเงินฟรี ดังนั้น
อย่าเห็นแก่โปรโมชั่น ควรดูว่าของนั้นจำเป็นและเราจะได้ใช้จริง ๆ มากกว่า
5.ประกัน…ทำไปก็ไม่ได้ใช้
การซื้อประกันเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต แม้ว่าตอนนี้เรายังแข็งแรง ไม่เคย ป่ ว ย หนัก ที่บ้านก็ไม่มีใครมีประวัติเป็น โ ร ค ร้ า ย ก็ยังวางใจไม่ได้เพราะอนาคตนั้น
ไม่แน่นอน หากวันนึงเกิด เ จ็ บ ป่ ว ย หนักขึ้นมา ถ้ามีประกันติดตัวไว้ ก็ยังมีเงินค่ารักษา ไม่ต้องควักเงินเก็บมาใช้ หรือต้องไปหยิบยืมคนอื่นให้ลำบากใจ
6.SSF / RMF ซื้อแล้วเงินจม
จริงอยู่ว่าหากซื้อ SSF ปีนี้ ต้องนับไป 10 ปีถึงขายได้ ส่วน RMF กว่าจะได้ใช้เงินก็ตอนเกษียณ แต่หากคิดดีๆ นอกจากจะช่วยประหยัดภาษีแล้ว SSF / RMF นับเป็นเครื่องมือ
ช่วยเก็บเงินไว้ดูแลตัวเองเมื่อเราอายุมากขึ้น
ขอบคุณที่มา : k r u n g s r i