1.ต้องกล้าที่จะยอมรับความความจริง
เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อชีวิตเกิดปัญหา เราต้องตั้งสติให้ได้เสียก่อนไม่คิดโทษตัวเอง จนเกินเหตุเพราะการจมอยู่กับปัญหาด้วยความคิดเดิมๆ นอกจากเราจะมองไม่เห็นทางออกแล้วยัง
จะพาลทำให้จิตใจห่อเหี่ยว เ ศ ร้ า ห ม อ ง จิตตกจนไม่เป็นอันทำอะไรทั้งสิ้นการเผชิญหน้ายอมรับความจริง ที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ เพราะหากไม่ยอมรับถึงการกระทำ
ของตัวเองให้ได้เสียก่อน ก็เป็นการ ย า ก ที่เราจะผ่านพ้นปัญหานั้นไปได้การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันรู้ว่าเราทำอะไร อยู่และจะต้องทำอะไรต่อไปในอนาคตคือจุดเริ่มต้นของทางออก
แห่งปัญหาเมื่อมีสติแล้ว การหาทางแก้ไขคงไม่ใช่เรื่องที่ ย า ก จนเกินไปนักขอเพียงคุณมีกำลังใจที่ดี มีภูมิคุ้มกันและใช้สตินำทางอยู่เสมอ
2. ทบทวนถึงเหตุผลของการเป็นหนี้
เมื่อเรายอมรับความจริงได้แล้วว่ามีหนี้สินมากน้อยเพียงไร จากนั้นจึงควรทบทวนถึงต้นเหตุแห่งการเป็นหนี้ว่า ทำไมเราจึงมีหนี้ก้อนนี้ขึ้นมาอาจเป็นการ กู้ ซื้ อ บ้ านหลังใหญ่เพื่อสร้าง
ครอบครัว ซื้ อ รถยนต์เพื่อใช้ในครอบครัวหรือการ ซื้ อ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการ ล ง ทุ น เหล่านี้ล้วนเป็น “หนี้สิน” ที่ถือเป็นการสร้าง “ทรัพย์สิน”ให้กับชีวิตแม้ว่าจะต้องแบกรับภาระ
ก้อนโตและใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะ ผ่ อ น หมดได้แต่ถือว่าเป็นการ ล ง ทุ น ที่คุ้มค่าเพราะในอนาคตสิ่งเหล่านั้น จะกลายเป็นสมบัติของเราและสามารถเป็นมรดกตกทอด ไปยัง
ลูกหลานได้อีกด้วย หากคุณมีหนี้ในลักษณะนี้ขอให้คุณทำใจให้สบายและ ปรับทัศนคติเสียใหม่จงเห็นคุณค่าในตัวเองให้มากขึ้นอย่านึกเสียใจในการตัดสินใจ ซื้ อ เพราะมันคือหนี้สิน
ที่คุณได้คิดไตร่ตรองมาแล้วเป็นอย่างดี
3. เรามีความสามารถที่ยังไม่ได้ใช้
ใน ย า ม ที่หนี้สินท่วมหัวหันไปทางไหน ก็ไม่มีใครยื่นมือมาช่วย อาจเพราะได้ขอความช่วยเหลือ จากผู้อื่นรอบตัวเสียหมดแล้วภาระที่มีช่างมากเหลือเกินทำงานแสนเหน็ดเหนื่อย
เงินที่ได้มาในแต่ละเดือนลำพัง จะใช้สอยกับเรื่องจำเป็นแทบไม่พอแล้ว ยังต้องเจียดบางส่วนมาใช้หนี้อีกทุกอย่างดูมืดแปดด้านไปเสียหมดอย าก ให้คุณทบทวนถึงความสามารถ
ของตัวเองว่าทำอะไรได้บ้ างอาจเป็นความชอบส่วนตัว หรืองานอดิเรกเช่น ย า ม ว่างคุณชอบปลูกต้นบอนไซไว้ที่บ้ าน อาจลองเพาะพันธุ์ต้นบอนไซเพิ่มให้มีจำนวนมากขึ้น และนำ
ไปขายในอินเตอร์เน็ทหรือขายตลาดนัดวันหยุด วิธีนี้อาจทำให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมจนพัฒนาเป็นอีกชีพหลักได้ในที่สุด
4. ปล่อยวางแล้วมุ่งมั่นกับเป้าหมาย
เมื่อคุณคิดทบทวนจนสามารถ ยอมรับกับปัญหาได้แล้วคงจะผ่ อ นคลายความทุกข์ลงได้บ้ าง ไม่มากก็น้อย หลังจากนั้นขอให้คุณปล่อยวางปัญหา ลงเราไม่จำเป็นต้องแบกภาระทุกอย่าง
ไว้บนบ่าตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นจะเอากำลังเรี่ยวแรง ที่ไหนก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้จากนี้ ขอเพียงมุ่งมั่นที่จะปลดหนี้สินแล้วใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง จงมอบความเชื่อมั่นให้แก่ตัวเอง
อย่างเต็มที่ให้กำลังใจตัวเอง ว่าตัวเรายังทำอะไรได้อีกมากมายขอเพียงไม่เกียจคร้าน และมีวินัยในการใช้เงินก็จะทำให้เราสามารถบริหารรายรับ-รายจ่ายได้อย่างสมดุลและเหลือเงิน
ไปผ่ อ นชำระหนี้หากคุณยึดเอาสติปัญญาเป็นที่ตั้งแล้วเชื่อว่าต้องเอาตัวรอดให้ผ่านพ้น วิ ก ฤ ต ชีวิตครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณที่มา : m o n e y h u b