Home ข้อคิด เก็บเงินแสนให้ได้ใน 1 ปีเมื่อทำตามนี้เก็บได้จริง

เก็บเงินแสนให้ได้ใน 1 ปีเมื่อทำตามนี้เก็บได้จริง

13 second read
0
0
750

หลายคนใฝ่ฝันว่าจะเก็บเงินให้ได้มาก ๆ แต่ก็ต้องยอมรับแหละว่ากว่าจะเก็บเงินได้สักก้อนนั้น ช่างเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน โดยเฉพาะเงินแสนแรกด้วยแล้ว บางคนแทบคิดไม่ออกเลยว่าจะใช้

วิธีไหนถึงจะเป็นไปได้ แต่ใครที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ ก็อย่าเพิ่งท้อไป  มีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำ กับ 11 วิธีเก็บเงินแสนภายใน 1 ปี ลองนำไปทำตามดู รับรองว่าจะช่วยให้เข้าใกล้ความฝัน

มีเงินแสนได้แน่นอน

1. เก็บเงินหยอดกระปุกวันละ 275 บาท

ถ้าอยากมีเงินแสนภายใน 1 ปี คิดง่าย ๆ เลยคือเราต้องเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยวันละ 275 บาท ซึ่งวิธีง่าย ๆ อย่างหยอดเงินใส่กระปุกนี่แหละ ที่เห็นผลได้ดีเลย แต่ต้องอาศัยความมีวินัยในตัวเอง

หมั่นออมเป็นประจำทุกวัน ถ้าทำได้แบบนี้ ครบปีเมื่อไหร่แคะกระปุกออกมา ได้เป็นเศรษฐีนอนนับเงินแสนแน่นอน

2. ฝากประจำเดือนละ 8,300 บาท

สำหรับใครที่ขี้เกียจต้องมาคอยหยอดกระปุกทุกวัน อาจจะเลือกเก็บเป็นรายเดือน หักเงินเดือนที่ได้เข้าบัญชีฝากประจำแบบอัตโนมัติไปเลย เป็นเหมือนการบังคับตัวเองให้มีวินัยออมเงินที่ได้ผล

ดีเชียวล่ะ โดยเงินขั้นต่ำที่ออมควรอยู่ที่ 8,300 บาทต่อเดือน เพราะเมื่อรวมกับด อ กเบี้ ยของบัญชีฝากประจำที่ได้รับราว 1-2.5% จะทำให้เมื่อฝากครบปี เราจะมีเงินเก็บครบแสนได้โดยการ

ออมเงินผ่านบัญชีฝากประจำ เราสามารถเลือกได้ทั้งแบบที่ไม่ต้องฝากเท่า ๆ กันทุกเดือน สามารถเติมเงินในแต่ละเดือนได้เรื่อย ๆ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นการฝากประจำ 3 เดือน, 6 เดือน และ

12 เดือน แต่ดอกเบี้ยที่ได้รับจะโดนหักภาษี 15% ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองมีวินัยมากพอ ก็อาจจะเลือกฝากประจำแบบปลอดภาษีที่ได้ ด อ กเ บี้ ยสูงกว่า ซึ่งจะมีระยะเวลาฝาก 24 เดือนขึ้นไป

รวมถึงต้องฝากจำนวนเงินเท่า ๆ กันทุกเดือนด้วย ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกได้ตามความเหมาะสมของตัวเองเลย

3. เปลี่ยนมาดื่มกาแฟชงเอง

รู้ไหมว่าการดื่มกาแฟทุกวัน เป็นปัญหาที่คอยกวนใจการเก็บเงินของหลายคนได้แบบไม่น่าเชื่อเลย เพราะลองคิดดูถ้าเราดื่มกาแฟแบรนด์ดังที่ขายกันอยู่แก้วละประมาณ 120 บาท ทุกวัน

แสดงว่าใน 1 ปี ต้องเสียเงินไปถึง 43,800 บาท หรือเกือบครึ่งแสนเลยทีเดียวดังนั้น วิธีแก้ง่าย ๆ อาจจะลองเปลี่ยนมาดื่มกาแฟที่มีราคาถูกลง เช่น แก้วละประมาณ 30 บาท ก็จะช่วยให้เรามี

เงินเก็บเพิ่มถึงปีละ 32,850 บาท หรือถ้าหันมาชงเองที่มีราคาแค่ซองละประมาณ 5 บาท ยิ่งช่วยประหยัดได้อีกถึงปีละ 41,975 บาทกันเลย

4. เลิกบุ ห รี่

การสูบบุ ห รี่นอกจากจะทำร้  า ยสุ ขภ า พ ยังทำล า ยเงินในกระเป๋าเราอีกด้วย เพราะเต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย เอาง่าย ๆ สมมติเฉลี่ยแล้วเราสูบ บุ ห รี่สัปดาห์ละ 4 ซอง ราคาซองละ 80 บาท

นั่นหมายถึงคิดเป็นค่าใช้จ่ายอย่างน้อย ๆ ปีละ 15,360 บาทเลยนะ ซึ่งบางคนอาจจะสูบมากกว่านี้ ก็คูณเป็นตัวเงินที่มากเข้าไปอีกไม่หมดแค่นั้น การสูบบุหรี่เป็นประจำ ยังตามมาด้วยโร คภั ยไ ข้เจ็ บ

ต่าง ๆ ซึ่งบอกเลยว่าถ้าเกิดเ จ็ บป่ ว ย หรือเป็นอะไรขึ้นมาจากการสู บบุ ห รี่ ค่าใช้จ่ายสำหรับการรั กษ าพย าบาลและดูแลตัวเอง ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย เสียเป็นหลักแสนหลักล้านก็มีให้เห็น

มาแล้ว เพราะฉะนั้น ใครที่สู บ บุ ห รี่อยู่ถ้าลดได้ ก็ขอให้ลดเถอะ หรือหักดิบเลิกสูบไปเลยก็ได้ คงช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้อีกมากเลยล่ะ

5. หาแหล่งพักเงินที่ดีกว่าฝากออมทรัพย์

วิธีเก็บเงินด้วยการฝากบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอและให้ผลตอบแทนที่น้อยเกินไป เพราะฉะนั้น การนำเงินไปกระจายล งทุ นในสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย จึงเป็นทางเลือกที่

น่าสนใจกว่า เช่น ซื้อกองทุนรวม ที่ให้ผลตอบแทนราว 5-15% ซึ่งผลตอบแทนที่เราได้รับ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการล งทุ นของกองทุนนั้น ๆ ตามความเสี่ยงที่เราสามารถยอมรับได้ คือ ยิ่งเสี่ยงมาก

ผลตอบแทนที่มีโอกาสได้ก็ยิ่งมากนั่นเองการเลือกล งทุ นในกองทุนรวม นอกจากจะมีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องมาคอยจัดการเอง เพราะมีมืออาชีพมาบริหารจัดการความเสี่ยงให้เรียบร้อย ใน

กองทุนบางประเภท เช่น กองทุน RMF หรือ LTF ยังให้สิทธิประโยชน์สามารถนำเงินไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่ฐานเงินเดือนถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี

6. หาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้

ถ้าอยากมีเงินเก็บเพิ่มไว ๆ แน่นอนว่างานประจำอย่างเดียวอาจไม่พอ ควรต้องมองหาช่องทางสร้างรายได้อื่น ๆ ด้วย อย่างหารายได้เสริมจากสิ่งที่ตัวเองถนัด ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือ รับแปลงาน

เขียนบทความ ถ่ายรูป ปลูกต้นไม้ขาย หรือขับรถส่งอ  าห า ร เป็นต้น เพราะเป็นการเพิ่มรายได้โดยที่ไม่ต้องควักเงินทุนหรือกลัวเจ๊ง แต่ถ้าเกิดใครมีทำเลดี ๆ บวกกับมีฝีมือทำอาหารอยู่แล้วละก็

อาจจะลองเปิดร้านทำอ าห า รขาย สร้างรายได้อีกทาง ก็น่าสนใจไม่น้อย ลองดูตามไอเดียนี้เลย

7. ทำอ าห า รกินเอง

อีกวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ดีแบบไม่น่าเชื่อก็คือ การทำอ า ห า รกินเอง หรือกินข้าวที่บ้านให้มากขึ้น เพราะรู้ไหมว่าหากเราเลือกไปกินอ าห า รตามร้านข้างนอก อย่างน้อยก็มื้อละ

40-100 บาทแล้ว คิดดูถ้ากิน 3 มื้อ รวมเป็นเงินวันละ 120-300 บาทเลยนะ ต่างกันเยอะเลยกับการเลือกทำอ าห า รกินเอง รวมทั้งวันอาจจะเสียเงินไม่ถึง 100 บาทด้วยซ้ำ ประหยัดได้วันละ

เป็นร้อยเลย ถ้าทำได้ครบปีนี่ประหยัดได้กว่า 30,000 บาทรวมถึงคนที่ชอบไปกินร้านหรู ๆ ทุกสัปดาห์ด้วย เพราะไปทีนึงก็หมดเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทแน่นอน สมมติไปทุกสุดสัปดาห์

เดือนนึงนี่จ่ายไปไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 บาท ซึ่งถ้าลดได้ หันมาทำเองที่บ้าน ปีนึงประหยัดเงินได้เกือบ 50,000 บาทเชียวนะ

8. งดเที่ยวสังสรรค์บ้าง

หากใครเป็นคนติดเที่ยว ติดเพื่อน วันหยุดสุดสัปดาห์ทีไรต้องออกไปสังสรรค์ให้ได้ละก็ ขอบอกเลยว่าหากงดได้ ก็ทำเถอะ เพราะจะช่วยให้ปีนึงเราเหลือเงินเก็บในบัญชีอย่างน้อย ๆ ปีละกว่า

24,000 บาทกันเลยนะ เพราะหากเที่ยวแค่สัปดาห์ละครั้ง ค่าใช้จ่ายต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 500 บาทแน่นอน

9. หันมาเที่ยวในประเทศ แทนต่างประเทศ

ใจนึงก็อยากเที่ยว แต่อีกใจก็อยากเก็บเงิน ยิ่งเวลาเห็นเพื่อน ๆ โพสต์รูปไปเที่ยวต่างประเทศด้วยแล้วก็ยิ่งอยากไปแบบเขาบ้าง แบบนี้จะทำยังไงดี เพราะถ้าเลือกไปเที่ยวก็ไม่มีเงินเก็บ

ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ อาจจะลองหันมาเที่ยวในประเทศแทนก็ดีเหมือนกันนะ เพราะการเที่ยวในประเทศช่วยเราประหยัดเงินได้เยอะเลย แถมสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ในเมืองไทยก็มีให้เลือก

มากมายไม่แพ้เมืองนอกเช่นกัน ไว้เก็บเงินได้เยอะ ๆ แล้วค่อยไปเที่ยวต่างประเทศดูบ้างก็ยังไม่สาย

10. Gadget ของฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นอย่าซื้อ

สินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต นาฬิกา หูฟัง ราคาไม่ใช่ถูก ๆ แต่ละชิ้นไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น ทำให้เราเสียเงินโดยใช่เหตุ ทั้งที่บางทีไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นที่

มีออปชั่นมากขนาดนั้นก็ได้ แต่หลายคนก็เลือกที่จะซื้อไว้ก่อน เพียงเพราะเห็นว่าเป็นรุ่นออกใหม่ บางทีของเก่ายังผ่อนไม่หมดเลย เห็นของใหม่มาก็ซื้อใหม่อีกแล้ว หนี้ก็ทบหนี้เข้าไปอีก

แนะนำเลยว่าถ้าตัดเรื่องพวกนี้ออกไปได้ แล้วเลือกซื้อแต่สิ่งที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ รับรองว่าช่วยเพิ่มเงินเก็บในแต่ละปีได้เกือบแสนเลยนะ แถมไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินให้ปวดหัวอีกด้วย

11. จำกัดการซื้อเสื้อผ้า-เครื่องสำอางไว้หน่อย

ข้อนี้บอกสาว ๆ เลยว่า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง กระเป๋า และอีกสารพัดสินค้าแฟชั่นเป็นตัวดูดเงินชั้นดีเลย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีช้อปออนไลน์ ยิ่งซื้อยิ่งจ่ายง่ายเข้าไปอีก เคยนับกันบ้างไหมว่า

ในแต่ละเดือนเราใช้เงินช้อปปิ้งกับสินค้าเหล่านี้ไปมากแค่ไหน บางคนถึงจะซื้อสินค้าทีละน้อย แต่บ่อย ๆ รวม ๆ กันเข้าคุณอาจจะตกใจกับจำนวนเงินที่จ่ายไปหลายพัน หรือเกือบหมื่น

ต่อเดือนได้เหมือนกันนะ

ขอบคุณที่มา : m o n e y. k a p o o k

Load More Related Articles
Load More By FahFah FahFah
Load More In ข้อคิด

Check Also

6 ความรักแบบผิดๆ ที่เผลอทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว (พ่อแม่ควรรู้ไว้)

“ความรัก” มีอิทธิพลต่อพัฒนาการ และการเจริญเติบโตของลูก คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมรักและต้องการม…