Home ข้อคิด วิธีเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคน “มีกินมีเงินเก็บ” ใช้เงินเป็น ไม่ขัดสน

วิธีเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคน “มีกินมีเงินเก็บ” ใช้เงินเป็น ไม่ขัดสน

4 second read
0
1
6,337

ใกล้สิ้นเดือนแล้ว เงินเดือนก็ใกล้จะออกแล้ว หลายคนเป็น โ ร ค ทรัพย์จางตั้งแต่ช่วงกลางเดือนนั่นอาจเป็นเพราะยังบริหารเงินเดือนได้ไม่ดีเท่าที่ควร หากปล่อยไว้คงไม่ดีแน่เรา จึงมี

7 วิธีบริหารเงินมาแนะนำ เพื่อที่เดือนหน้าจะได้ไม่ต้องอด มีพอกินพอใช้ และเหลือออม

1. แบ่งเงินทันที

ทันทีที่เงินออก สิ่งแรกที่ต้องทำคือจัดสรรเงินให้เป็นก้อน ๆ ก้อนหนึ่งไว้ใช้จ่ายทั่วไปในชีวิตประจำวันก้อนหนึ่งใช้หนี้ อีกก้อนหนึ่งไว้ให้รางวัลตัวเอง และต้องไม่ลืมแบ่งอีกก้อนเป็นเงิน

ออมไว้เผื่ออนาคตด้วยซึ่งการจัดสรรเงินนี้สามารถประยุกต์ได้ตามรายรับรายจ่ายของแต่ละคน

2. ใช้จ่ายอย่างรู้ตัว

ถ้าของมันต้องมี คงไม่ดีถ้าไม่ ซื้ อ ความอยากได้ อยากมี อยากกินอยาก ซื้ อ ที่เกินความจำเป็นในชีวิตเรานั้นมีกันทุกคน ดังนั้นเราสามารถ ซื้ อ ทุกอย่างที่ต้องการได้ตราบเท่าที่มีเงิน

จ่ายแต่ต้องยึดกฎเหล็กว่าจะต้องไม่สร้างหนี้และไม่ไปดึงเงินก้อนอื่นที่แบ่งไว้แล้วก่อนหน้านี้มาใช้

3. ออมให้เป็นนิสัย

ไม่จำเป็นต้องอดทุกความสุข หมดสนุกกับทุกอย่าง เพราะเราวางแผนเองได้ว่าจะออมเท่าไหร่จะใช้วิธีออมทีละนิดอย่างสม่ำเสมอ หรือจะเข้มงวดตามสูตรออมขั้นต่ำร้อยละ 10 ของรายรับ

ก็ได้แต่อย่าละเลยการออมเงิน เพราะเงินส่วนนี้นี่แหละที่จะช่วยให้อยู่รอดในยามคับขัน รวมถึงเป็นเงินสำหรับใช้จ่ายในอนาคตตามหลักแล้ว เราควรมีเงินสำรองไว้ใช้ในกรณี ฉุ ก เ ฉิ น

อย่างน้อย 3 เดือนเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นก็ยังมีเงินใช้ และหากบริษัทมีสวัสดิการให้พนักงานเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วยก็ยิ่งดี ซึ่งจะช่วยให้การออมเงินของเรานั้นง่ายขึ้นหากเกิด

กรณีที่จำเป็นต้องใช้เงิน หรือเกษียณงานไปแล้ว ก็มั่นใจได้ว่ามีเงินก้อนให้ใช้แน่นอน

4. บันทึกรายรับรายจ่าย

การควบคุมการใช้เงินที่ดีที่สุดก็คือบันทึกการใช้เงินของตนเองซึ่งประโยชน์จากการเขียนรายรับรายจ่ายทุกวันจะทำให้เรารู้รายละเอียดการใช้เงินในแต่ละวันว่ามีเงินในกระเป๋าอยู่เท่าไหร่

หยิบใช้ได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อใช้จ่ายไปแล้วเหลือเท่าไหร่อีกทั้งยังทำให้เราเห็นรายจ่ายส่วนเกินได้ง่ายจึงช่วยให้ตัดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็นทิ้งได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย

5. นำไป ล ง ทุ น

การ ล ง ทุ น ที่ดีคือ การทำให้เงินที่นอนอยู่นิ่ง ๆ ไปทำให้งอกเงย ซึ่งเราสามารถนำเงินไป ล ง ทุ น ได้ตามรูปแบบที่สนใจและเหมาะสมกับรายรับรายจ่าย อย่างไรก็ตาม ทุกการ ล ง ทุ น

มีความเสี่ยงจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาวิธีการ ล ง ทุ น ให้เข้าใจเป็นอย่างดี และเลือกปรึกษาคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น

6. บริหารการชำระหนี้

หนี้ที่ว่าคือ ค่าบ้าน ค่ารถ ค่า บั ต ร เ ค ร ดิ ต และอีก ส า ร พัดหนี้ การวางแผนจ่ายหนี้จะช่วยให้การเงินไม่ขาดสภาพคล่อง เช่น ชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยและ

ค่าตามทวงหนี้ชำระหนี้รายเดือนให้ได้จำนวนเงินขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย ถ้ายังมีเงินเหลือก็โปะหนี้ให้มากหน่อยเพื่อลดเงินต้น หรือถ้าฝืดเคืองจริง ๆ ควรเลือกจ่ายหนี้ที่ มี ดอกเบี้ยสูงก่อน

เพื่อตัดวงจรดอกเบี้ยบานปลาย

7. รักษาสถานภาพทางการเงิน

การบริหารเงินจะต้องมีวินัยและปฏิบัติต่อเนื่องอย่างเคร่งครัด ถ้าเริ่มทำได้เป็นระบบอยู่ตัวแล้วก็ต้องรักษาสถานภาพทางการเงินไว้ให้ได้ตามมาตรฐานในตอนแรกด้วย ทั้งนี้อย่าลืมแผน

สำรองสำหรับปรับการใช้เงินให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ด้วยเพียงเท่านี้สภาพการเงินก็จะคล่องตัว และมีความมั่นคงในระยะยาว

ขอบคุณที่มา : t o n k i t 3 6 0

Load More Related Articles
Load More By FahFah FahFah
Load More In ข้อคิด

Check Also

คนที่มีความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ทำไมมักมีสิ่งที่มองไม่เห็น คอยช่วยเสมอ

พ่อแม่ของเรา มีพระคุณเหนือกว่าขุนเขา เหนือกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ แม้จะเอาแบกไว้ไหล่ซ้าย ขวา ทั…