ทำไมถึงต้องลาออก
หากเราคิดจะลาออกจากงาน แน่นอนว่าเรามีเหตุผลของเรา แต่อยากจะให้คิดดูอีกทีว่าเหตุผลนั้นสมเหตุสมผลหรือเป็นเพียงอารมณ์ชั่ ววูบ เหตุผลเพียงว่าเจ้านายแ ย่ หรืออยากได้งานใหม่
เท่านั้นไม่เพียงพอสำหรับการลาออก ที่สำคัญเราต้องมั่นใจว่าเรามีแผนรองรับสำหรับการลาออกครั้งนี้แล้ว
เราจะเสียอะไรไปบ้าง
นอกจากเงิ นเดือนหรือรายได้แล้ว ลองเปรียบเทียบสวัสดิการที่จะได้จากงานใหม่ ว่าจะมีอะไรที่หายไปหรือไม่ หากที่ทำงานใหม่ไม่สามารถให้สวัสดิการได้ดีเท่าที่เดิม เราอาจจะต้องวางแผน
เพื่อตัวเราเอง เช่น ซื้อประกันให้ตัวเองหรือครอบครัวเพิ่มเติม นอกจากนี้ เรายังควรรั กษ าความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานเดิมไว้ เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตความสัมพันธ์ที่ดีนี้อาจจะนำโอกาสดีๆ
มาสู่เราได้
งานใหม่เหมาะสมกับเราหรือไม่และดีกว่าเดิมอย่างไร
งานที่เราจะไปทำเปิดโอกาสให้เราได้ใช้ความรู้ความสามารถและทักษะต่างๆ เพียงใด เหมาะกับเรามากกว่างานที่ทำอยู่หรือไม่ และดีกว่างานเดิมในแง่ใดบ้าง เช่น ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่
ของเราดีขึ้น หรือทำให้เรามีเวลาสำหรับครอบครัวมากขึ้น เป็นต้น
เราจะยังสามารถเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณได้เหมือนเดิมหรือไม่
เราจะมีรายได้มากพอที่จะแบ่งส่วนหนึ่งไว้ใช้ยามเกษียณได้หรือไม่ และงานใหม่ของเรามีกองทุนเพื่อการเกษียณที่นายจ้างสมทบให้ด้วยหรือไม่ หากเราเข้าสู่อาชีพอิสระหรือทำงานใหม่ที่ไม่มี
กองทุนประเภทนี้ เราอาจจะพิจารณาสมัครออมเงินผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หรือออมเงินแบบหักอัตโนมัติเพื่อเป็นหลักประกันไว้ใช้หลังเกษียณ
แผนการใช้จ่ายเงินของเราหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
เมื่อเราทราบว่าเราจะได้เงิ นจากงานใหม่เท่าไหร่แล้ว ให้เราทำแผนการใช้จ่าย ออมเงิ น และล งทุ น หากงบค่าใช้จ่ายเหลือน้อยลง ให้เราทดลองใช้ชีวิตตามแผนการใช้จ่ายใหม่นี้ว่าเราสามารถ
ปฏิบัติได้จริงหรือไม่ ก่อนที่จะลาออกจากงานเดิม
เราจะมีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายหรือไม่หากลาออกไปแล้ว
เรามีงานอื่นทำแทนหรือยัง งานใหม่สามารถให้รายได้ทดแทนรายได้เดิมทั้งหมดหรือไม่ และเราจะมีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายหรือไม่ หากยังไม่มีงานใหม่มารองรับ เรามีเงินสำรองที่เก็บไว้ใช้
ยามฉุ กเฉิ นพอสำหรับใช้กี่เดือน การหางานใหม่อาจต้องใช้เวลาหรือมีความไม่แน่นอนในช่วงการทดลองงาน คนทั่วไปจึงควรมีเงินเผื่อไว้สำหรับใช้ได้อย่างน้อย 3-6 เดือน หรือ 1 ปีในกรณีที่เรา
จะลาออกไปเป็นนายของตัวเองหรือยังหางานใหม่ไม่ได้ หากตอนนี้เรายังมีไม่พอ ก็ควรเก็บให้ถึงก่อนแล้วจึงพิจารณาเรื่องการลาออกอีกที
ครอบครัวมีความคิดเห็นอย่างไร
คู่สมรสของเรามีความคิดเห็นอย่างไรต่อการลาออกครั้งนี้ สิ่งที่เราจะทำส่งผลดีที่สุดต่อครอบครัวของเราหรือยัง และหากการลาออกทำให้เราขาดรายได้ ครอบครัวหรือคนที่พึ่งพิงเราจะมีปัญหาหรือไม่
อีก 5 ปีต่อจากนี้ เราเห็นตัวเองเป็นอย่างไร
เราได้วางแผนเส้นทางชีวิตของเราอย่างไรในอีก 5 ปีข้างหน้า งานใหม่จะช่วยให้เราเดินตามเส้นทางนี้ หรือเข้าใกล้เป้าหมายของเราได้อย่างไร เมื่อเราตอบคำถามเหล่านี้ และมีแผนรองรับที่
รอบด้านแล้ว เราจะสามารถลาออกอย่างมั่นใจยิ่งขึ้นว่าการย้ายงานครั้งนี้จะคุ้มค่า
ขอบคุณที่มา : m o n e y h u b .