บางครั้งหลายๆสิ่งก็ รั้งเราไว้จนชีวิตไปไม่ถึงไหน บางคนก็โทษ คนอื่น โดยไม่ยอมรับรู้ความเป็นจริงก่อนเลย ขณะที่บางคน เขาก้าวไปข้างหน้าได้เร็วกว่าใครๆ ก็เพราะเขาคิดถึงเป้าหมาย
และหากคิดว่าตัวเอง กำลังประสบกับอุปสรรค มันอาจมีเหตุผลหรืออะไรบางสิ่งที่ฉุ ดรั้งเราอยู่ก็ได้ มันจึงทำให้เราก้าวไปข้างหน้าไม่ได้ หรือไม่กล้าเปิดใจสักที
1. กลั วตั้งแต่ยังไม่อะไรสักอย่าง
จากความล้ มเห ล ว ของคนอื่นที่เราได้รับรู้มา อาจทำให้เรายังไม่กล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเกรงว่าจะทำได้ไม่ดีพอ คิดว่าจะเป็นอย่างเขา
หนทางแก้ : วิเคราะห์สถานการณ์ของตัวเองก่อน ทบทวนปัญหาและอุปสรรค จากสายตาคนนอก ไม่มีความสำเร็จใดๆหรอกนะที่ เกิดขึ้นได้หากเราไม่เริ่มลงมือทำให้คิดเสียว่า การลองผิด
ลองถูก เป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา
2. ไม่มีแร งจูงใจ และกำลังใจ
เคยตั้งใจจะทำอะไร แต่กลับเลิกทำไปครึ่งๆ กลางๆ บ้างมั้ย เชื่อว่าบางครั้งคุณเองก็เคยเป็น ตั้งเป้าไว้ วันนี้จะไปเข้ายิม พรุ่งนี้โน่นนี่ แต่ทำๆ ไปได้ไม่นานนักหรอกก็ถอ ดใจ ก็เพราะเราไม่มี
ความมุ่งมั่น และความต้องการที่จะทำมันจริงๆนะสิ การทำอะไรอย่างตั้งใจเพียงแค่ไม่กี่วันนั่นเป็นพฤติกรรมที่ บรรดาคนที่ขาดระเบียบวินัย เป็นกัน
หนทางแก้ : ให้จดจ่อกับสิ่งที่ต้องทำ ค่อยเป็นค่อยไปก่อน เมื่อพย ายามทำสิ่งนี้จนสำเร็จแล้ว มันจะดีแค่ไหนก็ไม่ควรก ด ดั น ตัวเอง มันอาจจะส่งผลเสี ยกับสุ ขภา พ หรือเราเอง
อาจไม่มีกำลังใจทำต่อ
3. เอาแต่โท ษคนอยู่นั่นแหละ
บางคนเมื่อเกิดมีสิ่งใดผิดพล าดขึ้นมาก็มักจะโทษคนอื่น หรือ ดิน ฟ้า อากาศ คนรอบข้างว่า เป็นต้นเหตุของทุกความล้ มเหล วในชีวิต จงคิดให้ดี และปรับทัศนคติใหม่ จงนึกเสี ยใจกับเรื่อง
ที่พล าดได้ แต่การโทษคนอื่นๆ มันไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
หนทางแก้ : ให้คุณลุกขึ้นมาตั้งเป้าหมาย พย ายามด้วยตนเอง จะสำเร็จหรือล้ มเห ล ว มันก็อยู่ที่ตัวเอง จงตั้งใจให้ถึงที่สุด
4. โยนความรับผิ ดชอบ ให้คนอื่น
แม้ทุกความผิ ดพล าดในชีวิตจะไม่ใช่ความผิ ดเราทั้งหมด แต่เมื่อมันเกี่ยวกับเรา เราเองก็ต้องยอมรับว่า ตัวเองมีส่วนในการรับผิดชอบนั้นด้วย การโยนความรับผิ ดชอบให้คนอื่น ไม่ได้ช่วย
ให้อะไรๆ ดีขั้น แต่ถ้าหากคุณยอมรับความผิ ด และเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบ้าง จิตสำนึกในความรับผิดชอบนี้ จะพาชีวิตคุณ ไปยังทิศทางที่ดีขึ้น ชีวิตอาจพบทางสว่างที่ดีกว่าเดิม
หนทางแก้ : คิดหาไอเดียสำหรับแก้ปัญหาที่เกิด เป็นการเพิ่มศักยภาพในการทำงาน และเราจะได้ไม่รู้สึกแ ย่กับตัวเอง เพราะให้มันผ่านไปโดยไม่ช่วยทำ ช่วยคิดอะไรเลย
5. สนใจอย่างอื่น และลืมเป้าหมายไป
เคยหรือเปล่าที่บอกกับตัวเองว่า เดี๋ยวเช็คเฟ ส แปปแล้วค่อยกลับไปทำงาน หลายคน สัญญากับตัวเองเช่นนี้ ก่อนจะจมหายไปกับการท่องโลกโซเชียล นี่เป็นอีกหนึ่งข้อ ของเทคโนโลยี
ที่มาพร้อมกับความเพลิดเพลิน งานที่ควรจะเสร็จ กลับไม่เสร็จ
หนทางแก้ : เราต้องมั่นคงกับเวลา ไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งยั่ วยุต่างๆจัดลำดับความสำคัญ รู้กันดีอยู่แล้วนี่ ว่า ทำให้เสียเวลา ฉะนั้นก็จั ดการมันให้ดี
6. ยึดมั่นกับความฝัน ที่เลื่อนลอย
ใครๆ ก็มีความฝัน แต่อย่าอยู่กับความเพ้อฝัน จนหลงลืมมองความเป็นจริง จะทำให้ติดอยู่ในกับดัก แห่งจินตนาการ จนไม่ทำอะไรอย่างจริงจัง เช่น วาดฝันว่าจะได้แต่งงานกับใครบางคน
แต่ไม่กล้าเปิดใจกับใครเลย
หนทางแก้ : คุณรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นคนยังไง ก้าวออกมาจากความเคยชินซะ แล้วทำบางอย่างที่เราไม่เคยทำมาก่อนให้สำเร็จสักครั้ง แทนการอยู่กับโลกแห่งจินตนาการ
7. วิเคราะห์ตัวเอง จนไม่เริ่มอะไร
การวิเคราะห์ตัวเองเกินไป จะทำให้เราค่อยๆ พบปัญหาในตัวเองมากขึ้นๆ ก็คือ มันจะเริ่มหยั่งร ากลึกในตัวคุณให้คุณรู้สึกแ ย่กับเหตุการณ์ร้ ายๆ ที่ผ่านมา และแน่นอนว่าเช่นนี้จะยิ่งทำให้
เครี ย ด กว่าเดิม แล้วก็ไม่อย ากทำอะไร
หนทางแก้ : เราควรจะมองหาความพึงพอใจ ด้านบวกของตน จะทำให้เรารู้สึกกระตือรือร้น และกล้าที่จะเริ่มใหม่ หรือลงมือทำบางอย่างนั่นเอง
ขอบคุณที่มา : g o o d l i f e u p d a t e