พฤติกรรมบางอย่างที่เราทำก็สามารถส่งผลต่อความก้าวหน้าในการทำงานได้เหมือนกันนะ แล้วพฤติกรรมแบบไหนที่เราควรจะรีบหยุดให้ไว ก่อนจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่
ย่ำอยู่กับที่บ้างล่ะ? ไม่ว่าคุณจะทำงานที่บริษัทไหน? ตำแหน่งอะไร? เราก็มั่นใจว่าคนทำงานทุกคนก็ล้วนต้องการอยากจะมีความก้าวหน้า และประสบความสำเร็จในเส้นทาง
การทำงานของตัวเองทั้งนั้น แต่ในบางครั้งแค่เพียงความตั้งใจหรือการทุ่มเททำงานหนักขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถผลักดันให้คุณมุ่งไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จหรอกนะ เพราะว่า
อาจมีพฤติกรรมบางอย่างที่คุณเผลอทำลงไปแบบไม่รู้ตัว ที่เป็นตัวการขัดขวางความก้าวหน้าและทำให้คุณยังย่ำอยู่กับที่ตลอดเวลา ในวันนี้เราเลยจะมาแ ช ร์ “4 พฤติกรรม”
ที่ทำให้คุณไม่ก้าวหน้าไปไหน รู้แล้วก็ควรจะรีบหยุดให้ไวก่อนสายเกินแก้ เอาล่ะ! ถ้าพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อความสำเร็จในอนาคตข้างหน้า ก็ตามมาดูกันได้เลย
1. พูดเก่ง แต่ไม่ลงมือทำ
คนที่จะสามารถประสบความสำเร็จในการทำงานได้นั้น เพียงแค่ “พูดเก่ง” หรือ “คิดเก่ง” อย่างเดียวอาจจะยังไม่พอ เพราะคนเราทุกคนล้วนมีความฝันว่าอยากจะเป็นอย่างนั้น อยากจะทำ
อย่างนี้ โดยที่ เราสามารถพูดหรือคิดสิ่งเหล่านั้นให้สวยหรูดูดีขนาดไหนก็ย่อมได้ แต่ผลสุดท้ายมันอยู่ที่ว่าคุณจะเริ่มลงมือทำและสามารถสานฝันสิ่งเหล่านั้นให้เป็นจริงได้รึเปล่า
ต่างหากล่ะ เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าตัวเองมีไอเดียที่ดี ชอบคิดอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ก็ไม่ควรที่จะเป็นฝ่ายแสดงความคิดเห็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรจะร่วมลงมือทำ
เพื่อให้งานชิ้นนั้นๆ ออกมาประสบความสำเร็จที่สุดจะดีกว่านะ
2. งานหนักไม่เอา งานเบาไม่สู้
“หูยยย งานนี้มันยากไป…’”หรือ “เหยยย งานนี้หนูทำไม่ได้หรอกพี่” ใครที่รู้ตัวว่าชอบพูดประโยคทำนองนี้ออกมาบ่อยๆ ก็รีบเตือนตัวเองให้ดี เพราะว่าการทำแบบนี้จะทำให้คุณย่ำ
อยู่กับที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปไหนเลยสักนิด ถึงแม้ว่าการทำงานผิดพลาดมันจะเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคนทำงานส่วนใหญ่ เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อตัวเองแล้วยังส่งผล
กระทบต่อทีมในภาพรวมได้อีกด้วย แต่! หากคุณไม่ลองตอบรับงานยากๆ ที่ตัวเองไม่เคยทำบ้าง แล้วแบบนี้คุณจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองมีความสามารถมากขนาดไหน? ทางที่ดีก็ลอง
อาสารับผิดชอบงานใหม่ๆ ก้าวออกจาก Safe Zone ของตัวเองบ้างก็ดีเหมือนกันนะ เพราะการทำแบบนี้จะยิ่งกดดันให้คุณต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นกว่าเดิม แบบนี้ต่อให้มีข้อผิดพลาด
หรือพบเจออุปสรรคระหว่างทาง อย่างน้อยๆ คุณก็ได้เรียนรู้แล้วได้รับประสบกาณ์ที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
3. รู้ดี รู้เยอะ เลยไม่ยอมรู้เพิ่ม
การเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ก็ถือเป็นเรื่องที่องค์กรคาดหวังว่าพนักงานทุกคนควรจะเป็น แต่เคยได้ยินรึเปล่าล่ะที่เขาชอบพูดกันว่า “เก่งไม่กลัว กลัวขยัน…” ก็เพราะว่าคนที่เก่งอยู่แล้ว
แต่ไม่รู้จักพัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งๆ ขึ้นไป ในวันหนึ่งก็อาจจะถูกวิ่งแซงหน้าโดยคนที่เขาขยันพัฒนาตัวเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอก็ได้นะ แบบนี้นิสัยที่จะคอยฉุดรั้งให้คนเรา
ไม่ประสบควาสำเร็จก็คือความทะนงตนว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่น ดีกว่าคนอื่น เพราะคนแบบนี้ก็จะคิดว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องพย ายามทำอะไร ก็สามารถอยู่เหนือใครๆ ได้ทั้งนั้น แต่เรา
ขอบอกเลยว่าความคิดแบบนี้มันผิดสุดๆ ไปเลยนะ ทางที่ดีหากคุณอยากจะประสบความสำเร็จในการทำงานและมีโอกาสเติบโตต่อไปข้างหน้า ก็ควรจะขวนขวายหาความรู้และประสบการณ์
ด้านใหม่ๆ ตักตุนสิ่งเหล่านี้เอาไว้ให้มากที่สุด เพื่อที่จะสามารถนำไปต่อยอดในอนาคตภายภาคหน้าได้
4. เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เคยฟังใคร
“ความมั่นใจ” ถือเป็นนิสัยที่ช่วยเสริมให้คุณเป็นคนที่โดดเด่นขึ้นได้… แต่ถ้าหากว่าคุณเกิดมีความมั่นใจสูงไปหน่อย จนกลายเป็นคนที่มีอีโก้สูงขึ้นมาแล้วล่ะก็ งานนี้แทนที่มันจะช่วยพัฒนา
ให้คุณก้าวหน้าและดูโดดเด่น อาจกลายเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งให้คุณไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้เหมือนกันนะ เพราะในโลกของการทำงานจริง การทำงานเป็นทีมถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำ
ให้งานทุกชิ้นดำเนินไปอย่างราบรื่น และสามารถสำเร็จลุล่วงไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เอาตัวเองเป็นใหญ่ ทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ที่คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
รอบตัวจะต้องหมุนตามคุณเสมอ นิสัยแบบนี้ก็จะทำให้คุณไม่สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้ และคอยฉุดรั้งไม่ให้ได้รับมุมมองใหม่ๆ จากความเห็นของคนอื่นเลย หลังจากที่ได้ลองสำรวจ
ตัวเองกันดูแล้ว ได้คำตอบกันรึยังล่ะว่าคุณกำลังทำพฤติกรรมแ ย่ๆ ที่ทำให้ตัวเองไม่ก้าวหน้าไปไหนบ้างรึเปล่า? ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ก็ถึงเวลาที่จะต้องมาปรับเปลี่ยนนิสัยและทัศนคติใน
การทำงานของตัวเองดูซะใหม่แล้วล่ะ หากคุณยิ่งปรับตัวเองได้เร็วแค่ไหน ก็จะยิ่งช่วยให้เขยิบเข้าใกล้เป้าหมายความสำเร็จที่ตั้งเอาไว้ได้เร็วขึ้นด้วยนะ
ขอบคุณที่มา : m e d i u m