เดี๋ยวนี้อย่างที่พอจะทราบกันดี ว่าเศรษฐกิจบ้านเราไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตเราอาจเป็นหนึ่งในคนที่ต้องออกจากงานเพราะบริษัทเลิกกิจการก็ได้
ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกค่ะ แต่มันมีความเป็นไปได้อยู่ เราจึงต้องดูแลเรื่อง การเงินของตัวเองให้มากขึ้นหน่อยและคงจะดีหากเราสามารถ ลดค่าใช้จ่ายในบ้าน
รายเดือนลงได้จะได้มีเงินเก็บออมไว้เยอะขึ้นวันนี้เราเลยรวบรวม วิธีการลดค่าใช้จ่าย ในบ้านที่เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้มาฝากทุกคนค่ะ
หมวดอ าหา ร
1. ทำอ าหา รกินเองบ้าง เพื่อประหยัด ค่าใช้จ่ายสำหรับการทานอาหารนอกบ้าน ทำทีละมากๆแล้วก็เก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อกินในมื้อถัดๆ ไป แต่ไม่ต้องเยอะขนาดเผื่อคน
ทั้งหมู่บ้านนะคะแค่กินได้ถึง 2-3 มื้อก็พอ มื้อกลางวันถ้าห่ออ าหา รจากที่บ้านไปกินที่ทำงานด้วยยิ่งดี
2. ถ้าอยากกินเบเกอรี่ ให้ซื้อตอนลดราคาซึ่งมักจะเป็นช่วงค่ำๆ ของทุกวันโดยเป็นเบเกอรี่ที่ใกล้จะหมดอายุแต่ยังดีอยู่ปลอดภัย แต่ต้องรีบกินนะคะ ทีนี้ก็จะได้เอ็นจอย
ขนมปังโดยเสียเงินน้อยลง
3. ซื้อผักผลไม้ตามฤดูกาล และถ้าเจอที่ ที่ขายราคาถูกมากๆ ซื้อมาเลยเยอะๆ แล้วแช่แข็งไว้ บางส่วนเพื่อให้นำมาใช้ได้นานๆ
4. เวลาไปตลาดเพื่อซื้อของสด มาทำอ าหา ร ให้เดินเปรียบเทียบหลายๆ ร้าน เพื่อหาร้านที่มีของสดที่สดที่สุด และราคาเหมาะสมที่สุด
5. อย่าไปกินบุฟเฟต์บ่อย ร้านบุฟเฟต์หลายแห่งทั้งราคาแพงจำกัดเวลาด้วย และถ้าคิดดูจริงๆคนเราก็กินได้ แค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น ลองเปลี่ยนมาเป็นซื้อของสด
มาทำกินเองที่บ้าน จะได้เสียเงินเท่าที่กินไหวจริงๆ
6. ปลูกพืชสวนครัวที่ใช้บ่อยๆ เช่น กะเพรา พริกขี้หนู ต้นหอม ผักชี ผักบุ้ง ลงในกระถางดินในบ้านจะได้ไม่ต้องซื้อ แถมยังปลอด ส า ร พิ ษ ด้วย
หมวดพลังงาน
7. ปิดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า และก๊อกน้ำทุกครั้งที่ไม่ใช้งานหรือไม่จำเป็นบางบ้านมีโคมไฟที่ใช้ตกแต่งบ้านเท่านั้น ถ้างดเปิดตรงส่วนนี้อาจจะประหยัดค่าไฟได้
หลายบาทต่อเดือนเลยล่ะ
8. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพ ลั งงาน พวกเครื่องปรับอากาศ หม้อหุงข้าว ตู้เย็น หากเป็นรุ่นเก่ามากๆ อาจจะกินไฟมากกว่ารุ่นใหม่ๆ ถ้าอยากประหยัดไฟ
ระยะยาว ให้ซื้อของรุ่นใหม่มาเปลี่ยนซะ รับรองคุ้มเงินที่เสียแน่นอน
9. ปิดแอร์ก่อนเลิกใช้งานจริงประมาณ 15-30 นาที เพราะพอปิดแอร์ แล้วมันก็จะยังมีความเย็นเหลืออยู่จะได้ประหยัดค่าไฟอีกหน่อย คิดง่ายๆ ถ้าตื่น 5.00 น.
ตั้งเวลาปิดแอร์ 4.30 น.พอครบ 1 เดือน ก็เท่ากับว่าเราประหยัดค่าแอร์ไป 15 ชั่ ว โมงแน่ะ!
10. ปิดทีวี เครื่องเล่น DVD เครื่องเสียง ระบบเกมส์ต่างๆ ที่สวิตซ์ตัวเครื่องไม่ควรปิดแค่ด้วยรีโมท เพราะเครื่องจะยังใช้ไฟอยู่ จากนั้นก็ถอดปลั๊กด้วย
หมวดของใช้
11. ของบางอย่างที่ไม่เสียง่ายๆ และต้องใช้ตลอดที่บ้าน ถ้าลดราคาอยู่ให้ซื้อตุนไปเลย เช่น ผงซักฟอก น้ำ ย า ปรับผ้านุ่ม ทิชชู่ แชมพู เป็นต้น
12. แต่เวลาเห็นของลดราคาอย่างอื่นที่ไม่ได้จำเป็นจริงๆ อย่าเผลอใจซื้อ เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ยกเว้นมีเหตุที่ต้องซื้อของใหม่จริงๆ เช่น เพิ่งเรียนจบแล้ว
ต้องไปสมัครงานจึงต้องหาเสื้อผ้าสุภาพใส่หรืองานที่ทำมีเงื่อนไขคือต้องแต่งหน้าตลอด แบบนั้นค่อยถือว่าจำเป็นจริงๆ
13. ถ้าใครที่ชอบไปเดินช็อปปิ้งบ่อยๆ ให้ลดความถี่ลง ไม่ว่าจะไปเดินตลาดคลองถมที่มีแต่ของถูกๆขายหรือเดินห้างยังไงก็ไม่ควรไปเดินบ่อย เพราะนั่นเท่ากับ
เป็นการเพิ่มโอกาสในการใช้จ่ายแบบไม่ได้วางแผนมาก่อน
14. ก่อนไปซื้อของเข้าบ้านทุกครั้ง ให้ทำรายการข้าวของที่ขาดและต้องการซื้อก่อนออกจากบ้านพอไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ต หรือห้างให้ซื้อของได้เท่าที่เขียนลงใน
ลิสต์เท่านั้น อย่าวอกแวกเด็ดขาด
15. ของแพงไม่ได้หมายความว่าเป็นของดี ดังนั้น บางอย่างที่ใช้แทนกันได้ ระหว่างของยี่ห้อดังราคาแพงกับของที่อาจไม่ดังเท่า แต่ราคาถูกกว่า เลือกอย่างหลังดู
หวังว่า ทุกคนจะพอได้ไอเดียสำหรับวิธีในการประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านแล้วนะคะ แม้บางอย่างอาจจะฟังดูไม่สะดวกสบาย และยิบย่อย แต่เพื่อให้เรามีเงินพอเก็บพอใช้ใน
สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ เราก็ต้องลองทำดูก่อนค่ะ เพราะจริงๆ แล้ว มันไม่ยากเลยสักนิด
ขอบคุณที่มา : M a s i i