Home ข้อคิด 15 ประโยค ไม่ควรพูดกับหัวหน้า เพราะอาจทำให้คุณดูแย่

15 ประโยค ไม่ควรพูดกับหัวหน้า เพราะอาจทำให้คุณดูแย่

7 second read
0
0
1,813

มีหลากหลาย สิ่งที่เราควรเรียนรู้ในการทำงาน ไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมงานหรือกับหัวหน้างานหรือแม้กระทั่งบอสใหญ่ มารยาทและวินัยในการทำงานสำคัญมาก เพราะบอกได้ถึง

ความเป็น มืออาชีพและนั่นคือ อีกจุดที่จะนำไปพิจารณาในการขึ้นเงินเดือน หลายสิ่งที่เราไม่ควรพูดกับเจ้านาย/หัวหน้างาน อย่าได้เผลอเชียวล่ะ บางทีคำพูดที่ เราบอกตัวเอง

เสมอว่า “ก็เป็นคน พูดตรงๆ มีอะไรก็พูด” ไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป

1. งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ

แม้ไม่ใช่งาน ในความรับผิดชอบของเราก็ตาม หากหัวหน้าสั่งงานเราก็ควรทำ เพราะสิ่งที่หัวหน้ามองอยู่นั้น อาจจะไม่ใช่เพียงแค่ให้เราทำงานนั้นๆให้เสร็จ แต่นั่นบอกไปได้ถึง

การที่เรา ก้าวออกจากบทบาทงานของตัวเองได้และสามารถทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงได้รวมถึงการทำให้โปรเจ็ค นั้นลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งมีเราเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ หากเราปฎิเสธ

เสียแล้ว นั่นหมายถึง เราไม่มีความยืดหยุ่น ในการทำงานเอาเสียเลยแต่หากมีปัญหาไม่สามารถทำได้เนื่อง จากงานล้นมืออยู่แล้ว ควรต้องคุยกับหัวหน้าด้วยเหตุผลดีๆ ไม่ใช่

ใส่อารมณ์เมื่อได้รับมอบหมายงาน

2. ตอนนี้ยุ่งมากเลย งานนี้ไม่เร่งใช่มั้ย

เมื่อรู้ว่าตอนนี้กำลังยุ่ง งานล้นมือจริงๆ เราสามารถถามหัวหน้าได้ ถึงความสำคัญของงานใหม่ ฉะนั้นควรปรับมาทำงานชิ้นใหม่ก่อนและหยุดงานที่กำลังทำอยู่ไว้ ชั่ วคราววิธีนี้

จะทำให้หัวหน้า รู้ว่าจริงๆแล้วงานล้นมือ แต่หากมีงานเร่งด่วน เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ ไม่ยึดติด และหากงานที่กำลังทำค้างเอาไว้นั้นล่าช้าก็เพราะเรามีเหตุผลที่ดีพอ

3. เราทำงานได้มากกว่า…ควรได้เงินเดือนมากกว่าหรือขึ้นเงินเดือนมากกว่า

เรื่องเงินเดือนหรือขึ้นเงินเดือน เป็นพิจารณาของบริษัท เราสามารถขอขึ้นเงินเดือนได้ แต่ไม่ควรบอกว่า เราทำงานได้มากกว่าคนอื่นๆ เพราะการทำงานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

อาจจะรู้สึก เหมือนว่าเราทำงานได้เยอะ ทำงานได้ดีแต่นั่นคือความรู้สึกของเราเอง และเราจะทำให้ เพื่อนร่วมงานมองในแง่ลบ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเราเลย ทางที่ดีหากต้องการ

ขอขึ้นเงินเดือนหรือใดๆ ควรพูดเฉพาะในส่วนของตัวเอง และไม่ได้หมายความว่าการขอนั้นจะได้เสมอไป

4. ฟังแล้วยากจัง/ ไม่น่าจะเป็นไปได้

เมื่อยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ อย่าคิดว่าสิ่งใดยาก เกินกว่าจะจัดการปัญหาได้ ความยากของงาน คือบทพิสูจน์ของความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเรา ยิ่งถ้าเราทำให้งานที่เป็น

ไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้เชื่อว่าเจ้านายจะให้ความไว้วางใจ ในตัวเรามากขึ้น แต่หากเราพูดประโยคนี้ตั้งแต่ก่อนเริ่มโปรเจค คุณอาจจะไม่ได้ทำโปรเจคนี้เลยก็เป็นได้

5. ตอนทำงานที่เก่า ทำงานกันแบบนี้

ระลึกไว้เสมอว่า งานแต่ละแห่ง ไม่เหมือนกัน ตำแหน่งเดียวกัน แต่ลักษณะงานก็แตกต่างโดยเฉพาะวัฒนธรรมในองค์กรนั้นๆควรเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นำสิ่งที่เรียนรู้มาแล้วนำมาปรับ

ใช้กับงาน ที่ใหม่ให้ได้ อย่ายึดติดกับสิ่งเดิมๆที่ทำให้เราไม่ก้าวไปไหนสักที

6. เจ้านายแน่ใจแล้วหรือที่จะทำอย่างนั้น

อย่าได้…ล้ำเส้นเข้าไปสอนงาน เจ้านายเด็ดขาด โดยเฉพาะพูดแล้วมีเสียงหัวเราะเบาๆด้วยแล้วยิ่งไม่ควรอย่างยิ่ง การตัดสินใจต่างๆที่เจ้านายได้ทำไปแล้วนั้นเรามีหน้าซัพพอร์ท

งาน และทำเพื่องานลุล่วงไปได้โดยดี หากงานมีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นอย่างที่คิดก็เพียงแค่พูดคุยเพื่อขอคำแนะนำ

7. ทำดีที่สุดแล้ว

ความผิดพลาด เกิดขึ้นได้เสมอ หากเรารู้สึกได้ถึงความผิดพลาดนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเกิดจากตัวเราเองหรือปัจจัยรอบข้าง สิ่งที่ต้องทำคือ นำความผิดพลาด นั้นไปปรับปรุง แต่หาก

เกิดความ เสียหายขึ้นมาแล้วไม่ควรตอบไปว่า “ทำดีที่สุดแล้ว”เพราะนั่นอาจหมายถึงคุณยังทำได้ไม่ดีพอ ที่จะทำให้งานลุล่วงและเป็นการปัดความรับผิดชอบ ทั้งหมดจากคำพูด

นั้นๆ สิ่งควรพูดคือ… ขอโอกาส และจะพยายามนำไปปรับปรุง ครั้งหน้าจะทำให้ดีกว่านี้

8. ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี

เมื่อรู้ว่าเกิดปัญหาขึ้น ในการทำงานไม่ว่าโปรเจ็คใดๆ เมื่อต้องการขอความช่วยเหลือจากหัวหน้า ควรคิดการแก้ปัญหาไปอย่างคร่าวๆ และขอความเห็นมากกว่าการที่จะบอกว่า

ปัญหาที่ เกิดขึ้นนั้นแก้ไขไม่ได้เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร นั่นแสดงถึงวุฒิภาวะ ที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน งานทุกงานย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอ อยู่ที่การจัด

การและแก้ปัญหานั้นๆ

9. ไม่ใช่ความผิดของเรา เป็นความผิดของ….

การโทษคนอื่นไม่ได้ทำให้เราดูดี หรือไม่ผิด หากทำงานเป็นทีม อย่าโทษผู้อื่น เพราะนั่นหมายถึงคุณกำลังสร้าง ศั ต รู ขึ้นในที่ทำงานแม้จะไม่ใช่ความผิดของคุณจริงๆ คุณควร

ให้ผู้ที่ทำ ผิดพลาดมีโอกาสได้พูดถึง ความผิดนั้นด้วยตนเอง อย่าร้อนตัวจนชี้นิ้วไปยังใครคนใดคนหนึ่ง

10. ไม่สามารถทำงานร่วมกับคนๆนี้ได้

ไม่ว่าคุณจะเคมีไม่ตรงกัน กับเพื่อนร่วมงานมากแค่ไหน หรือมีปัญหาส่วนตัวขัดแย้งกันอย่างมากมาย แต่การทำงานนั้นเมื่อได้รับมอบหมาย ควรพยายามที่จะทำงานร่วมกับใคร

ก็ตามที่หัวหน้า เห็นว่าจะทำให้งานสำเร็จ หรือหากหัวหน้ารู้ปัญหานี้อยู่แล้วก็อาจจะเป็นไปได้ที่ต้องการ ให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับบุคคลนั้นได้ เพราะการทำงานนั้นไม่ควร

มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง

11. คุณไม่ได้บอกให้เราทำงานนั้น

เป็นไปได้ที่เจ้านาย จะไม่ได้สั่งงานนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่เราควรเลี่ยงคือโทษเจ้านายโดยตรง วิธีที่ดีที่สุดคือหาทางพูดคุยและหากยังไม่ถึงกำหนดงาน อาจจะต้องคุยกันว่าทำตอนนี้

พอจะเป็น ไปได้หรือไม่แต่อย่าลืมที่จะพูดคุยเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมขึ้นในครั้งหน้า และหากเจ้านายไม่ได้สั่งงานเราจริงๆ แล้วอย่ารับเอาความผิดชอบมาใส่ตน อาจจะ

เพียงขอโทษไป แต่อย่าโทษตัวเอง

12. งั้นขอลาออกละกัน

ไม่ว่าเจอปัญหาหรือถูกตำหนิมาอย่างไร การพูดถึงเรื่องการลาออก เหมือนเป็นการ ข่ ม ขู่ ซึ่งมักไม่ได้ผล และไม่มีใครคิดว่าการที่คุณลาออกนั้นจะทำให้บริษัทล่มสลายหากคุณ

แสดง สภาวะจิตใจที่ต้องการประชดหรือ ข่ ม ขู่ ออกมา บริษัทเองก็คงไม่อยาก เ สี่ ย ง กับการที่คุณพูดอะไรไม่คิดแบบนี้ และนั่นคือการหนีปัญหาที่ชัดเจนที่สุด

13. คงจะดีถ้าไม่ต้องตอบเมล์ตอนดึก

เรื่องจริงของยุคนี้ คือการที่เราทำงานผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานผ่านเมล์หรือแชทต่างๆ เป็นไปได้ที่เจ้านายคิดงานได้ตอนดึก และต้องการสั่งงานเอาไว้ก่อนที่จะลืม

หรือมีการ แก้ไขงานในตอนดึกหากเป็นบ่อยๆจนทำให้การพักผ่อนของเราสะดุดการจะเข้าไปพูดคุยกับเจ้านายนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่น้ำเสียงในการพูดคุยนั้นควรเป็นไปอย่าง

ราบเรียบ ไม่ใช่ อารมณ์หงุดหงิดจากการนอนไม่เพียงพอ ถามในสิ่งที่ควรถามเช่น “ถ้าหากไม่ได้ดูเมล์ตอนดึกๆและไม่สามารถตอบกลับได้ควรทำอย่างไร”หรือ ถ้าหากจะขอ

อนุญาตตอบเมล์หรือ แชทต่างๆในช่วงเวลา… ได้หรือไม่หากพูดคุยด้วยเหตุผลแล้วไม่ได้ผล นั่นก็อาจจะเป็นวัฒนธรรมองค์กร ที่ไม่เข้ากับตัวเรา ลักษณะงานบางงานนั้นอาจจะ

ต้องการการตอบรับอย่างใด อย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอาจจะต้องสอบถามตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์งานแล้วก็เป็นได้

14. เวลาไม่พอที่จะทำงานนี้ให้เสร็จได้ทันเวลา

ทุกๆคนก็คงมีงานล้นมือเหมือนกันทั้งนั้น แต่หากเรามีงานเยอะและทำไม่ทันจริงๆ ควรพูดคุยหรือขอความช่วยเหลือก่อนจะถึงกำหนดการส่งงาน การขอความช่วยเหลือไม่ได้

หมายถึง ประสิทธิภาพในการทำงานของเราไม่ดีพอแต่หมายถึงเรารู้จักการแก้ปัญหาและมีเหตุผล เพียงพอในการขอความช่วยเหลือนั้น หัวหน้างานอาจจะให้คำแนะนำถึงระบบ

การทำงาน เพื่อให้เสร็จทันเวลา หรืออาจจะได้รับคำแนะนำที่ทำให้เราจัดการปัญหาได้ดีพอ

15. วันนี้เหนื่อยและหมดพ ลั ง

ไม่ว่าเมื่อคืนคุณจะไป เ ม า หนักที่ไหนมา การพูดคือสิ่งที่บอกได้ว่า คุณไม่มืออาชีพ ไม่ว่าจะเหนื่อย ง่วงขนาดไหน เมื่อถึงเวลางานก็คือหน้าที่ของคุณที่จะทำให้ตัวเองมี

พลั งใน การทำงานให้เต็มที่ หากทำไม่ได้คุณมีปัญหา กับระบบการจัดการในตัวเองซึ่งทำให้เป็นปัญหากับการทำงานแน่นอนหลายๆ คำพูด นั้นเมื่อใส่อารมณ์ ในการพูด

เข้าไปด้วย เชื่อว่า จะ เ ล ว ร้ า ย กว่านี้มาก การปีนเกลียว หรือล้ำเส้นเจ้านายไม่ดีแน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามบางอย่างที่สามารถเก็บคำพูดเอาไว้ได้ก็ควรทำ การทำงานนอก

จากทำตามหน้าทีแล้ว ยังต้องสามารถต่อยอดงานได้ และต้องรู้จัดอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่ไม่ควรพูดอีกด้วย

ขอบคุณที่มา : p o o y i n g n a k a

Load More Related Articles
Load More By FahFah FahFah
Load More In ข้อคิด

Check Also

คนที่มีความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ทำไมมักมีสิ่งที่มองไม่เห็น คอยช่วยเสมอ

พ่อแม่ของเรา มีพระคุณเหนือกว่าขุนเขา เหนือกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ แม้จะเอาแบกไว้ไหล่ซ้าย ขวา ทั…