Home ข้อคิด 10 วิธี “พิชิตใจ”เพื่อนร่วมงาน ให้เป็นที่รักของทุกๆคน

10 วิธี “พิชิตใจ”เพื่อนร่วมงาน ให้เป็นที่รักของทุกๆคน

6 second read
0
0
468

ในชีวิตการทำงาน ใคร ๆ ก็อยากจะเป็นที่รัก เป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงานกันทั้งนั้น แต่การจะเป็นที่ยอมรับของคนที่หลากหลายทั้งวัยต่างกัน ตำแหน่งต่างกัน ล้วนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและ

การปฏิบัติต่อผู้อื่นของเราทั้งสิ้น ฉะนั้น ถ้าจะอยู่ให้เป็น ก็ต้องวางตัวให้เป็นที่รักที่เอ็นดูของเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศให้ได้ นอกจากจะทำงานกันได้อย่างสมัครสมานสามัคคีแล้ว ยังสร้าง

บรร ย ากาศที่ดีในการทำงานอีกต่างหากซึ่งการจะพิชิตใจเพื่อนร่วมงานให้ได้นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด มาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เราเป็นคนน่ารัก เป็นที่เอ็นดูในสายตาเพื่อน

ร่วมงานในออฟฟิศได้บ้าง

1. รอยยิ้มสร้างมิตรภาพ

แค่รอยยิ้มนี่แหละคือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่ดี ไม่เชื่อลองดูสิ กับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยทักทายพูดคุยกัน ยิ้มให้กันแค่ครั้งเดียว เดี๋ยวก็ได้เริ่มต้นสนทนากัน เพราะการยิ้มเพื่อทักทายผู้อื่น

ถือเป็นมารยาทในการเข้าสังคมรูปแบบหนึ่ง เมื่อเจอหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาสวัสดีทักทาย ดูน่ารักจะตาย การกระดกมุมปากขึ้นนั้นทำไม่ยากและไม่เสียเงินเลยสักบาท แต่ได้มิตรภาพ

และบรรย าก า ศที่น่านั่งทำงานกลับมา

2. แสดงความจริงใจ

ถ้าอยากจะให้ใครเชื่อใจ ไว้ใจ เราก็ต้องแสดงความจริงใจให้เขาเห็นก่อน เมื่อใดก็ตามที่เราส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายรู้ว่าเรามาอย่างเป็นมิตรและจริงใจต่อเขา เขาก็รับรู้ได้ มอบน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ

เป็นการซื้อใจ ในบางโอกาส เปิดใจรับความแตกต่าง หากมีปัญหาก็รีบเคลียร์ อย่าปล่อยเรื้อรังจนมีปัญหากระทบงาน นึกไว้เสมอว่าในเมื่อเราจริงใจไป ก็ย่อมได้ความจริงใจกลับมา ตรงกันข้าม

ถ้าเราเ ส แ ส ร้ งแ ก ล้ งทำ จะไปหวังความจริงใจจากใคร

3. อย่ายกตนข่มท่าน

การที่เราเป็นคนเก่ง เป็นมีความสามารถ มันมีวิธีมากมายในการนำเสนอตัวเองว่าฉันเก่ง ต้องไม่ต้องโอ้อวด เกทับ หรือทำร้ า ยความรู้สึกคนอื่น ๆ ด้วยการทำตัวเหนือกว่า ทำแบบนั้นไม่มีใคร

เขาชอบหน้าแน่นอน แถมยังหมั่นไ ส้อีกด้วย การพิสูจน์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ต่างหากที่จะทำให้คนอื่นยอมรับอย่างสมัครใจ เราไม่จำเป็นต้องเ ห ยี ย บหัวใครเพื่อความสำเร็จหรอกนะ

ต่อให้เก่งแค่ไหน ถ้ามีแต่คนไม่ชอบหน้า ทำอะไรก็มีแต่คนเบ้ปากใส่ ชีวิตก็อยู่ยาก

4. ช่วยเหลือตามโอกาส

การทำงานเป็นทีม คือการร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างทำโดยไม่สนใจเพื่อนร่วมทีมเลย ฉะนั้น หากเพื่อนร่วมทีมมีปัญหา สิ่งไหนที่พอจะช่วยได้ก็ช่วย หรือถ้าใครงานล้นมือ

แล้วเราสะดวก ก็ลองเสนอให้ความช่วยเหลือตามโอกาส แต่ไม่ใช่เอาหน้าโดยที่งานตัวเองไม่เสร็จ การยื่นมือไปช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง สักวันหนึ่งเราจะได้รับสิ่งดี ๆ กลับมาเช่นกัน หาโอกาส

เป็นที่พึ่งพาให้กับเขาบ้างเท่าที่จะทำได้ เช่น รับฟัง ให้คำปรึกษา ช่วยแก้ไข เป็นต้น

5. พย าย า มเข้าใจความต่าง

ในการทำงาน การไม่ลงรอยกับเพื่อนร่วมงานถือเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดามาก ไม่ว่าจะเป็นนิสัยส่วนตัว ทัศนคติ หรือวิธีการทำงาน ในเมื่อเราต่างมีจุดหมายเดียวกันในการทำงาน ก็อย่าเพิ่ง

ตัดสินใครจากสิ่งที่เห็น พย าย า มเข้าใจความเป็นเขา และความต่างของเขา ตราบใดที่นิสัยของเขา ทัศนคติ หรือวิธีการทำงานเขาไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อน ก็พ ย าย า มปล่อยผ่าน แล้วมุ่ง

ที่ความสำเร็จของงานจะดีกว่า

6. อย่าหน้าไหว้หลังหลอก

ไม่มีใครชอบพวกหน้าไหว้หลังหลอกหรอก ต่อหน้าแสนดี แต่ลับหลังเที่ยวเอาเรื่องของคนอื่นไปเป็นหัวข้อนินทา การนินทานำมาซึ่งความแตกแยกและไม่เคยให้ผลดี ยิ่งถ้าเขารู้ทีหลัง จะ

ทำ ลา ยความเชื่อใจกันเปล่า ๆ คิดไว้เสมอว่าเราไม่ชอบให้ใครเอาเรื่องของเราไปนินทาเสีย ๆ หาย ๆ ก็อย่าทำกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องจริงเท่ากับประจาน

แต่ถ้าเป็นเรื่องเท็จก็คือใส่ ร้ า ยป้ายสีดี ๆ นี่เอง

7. ไม่ทำตัวเป็นภาระ

ทุก ๆ ออฟฟิศจะมีคนจำพวกหนึ่งที่เป็นพวก “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” หรือง่าย ๆ ก็คือ ตัว ถ่ ว ง ความเจริญของทีม ในเมื่อโตถึงขั้นทำงานทำการแล้ว ก็ควรจะมีความรับผิดชอบหน้าที่

ของตัวเอง ทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด อย่าเที่ยวปัดความรับผิดชอบให้เพื่อนร่วมงานรับภาระ แต่พองานเสร็จก็โผล่มาเอาหน้า ไม่มีใครอยากจะร่วมงานกับคนที่ชอบเอาเปรียบ

คนอื่น ถ้าไม่ทำตามหน้าที่ คนอื่นก็มีภาระงานเพิ่ม รับงานแล้วอย่าดอง อย่ากินแรง อย่าเป็นตัว ถ่ ว งใคร

8. เคารพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ

การจะอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสงบสุข คือการที่ต่างคนต่างเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมงาน เพราะเขาไม่ใช่เพื่อนกินเพื่อนเที่ยวที่จะเฮฮาไปกับเรา แต่เราร่วมงาน

กันโดยมีวัตถุประสงค์คือความสำเร็จของงาน ดังนั้น ต้องเคารพและให้เกียรติในตัวตน ความคิดเห็น และเวลาของเขาเสมอ อย่าทำอะไรที่เป็นการละเมิดสิทธิ์หรือห ย า บ ค า ยต่อเขา

หรือทำอะไรไร้ความเกรงใจ แบบนั้นไม่มีใครเขาปลื้มแน่

9. ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี

นอกจากเคารพและให้เกียรติกันแล้ว ความเกรงใจเป็นอีกสิ่งที่ต้องมีให้กัน อย่างที่เขาว่ากันว่าความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดีนั้นคือถูกต้องที่สุด และใช้ได้กับทุกคน ทุกสถานการณ์

เป็นม า ร ย า ทพื้นฐานในการเข้าสังคม ยิ่งกับคนที่ไม่สนิทชิดเชื้อ ยิ่งต้องระวังการกระทำให้มาก ไม่เช่นนั้นอาจไปสร้างความไม่พอใจ สร้างความเดือดร้อนให้เขาได้ พึงกระทำในขอบเขต

ที่ตัวเองมีสิทธิ์ โดยไม่ละเมิดสิทธิ์ใคร และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

10. ลดอีโก้ลงมาบ้าง

อีโก้ เป็นอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกัน คนที่เชื่อมั่นแค่ตัวเอง ไม่ฟังใคร หยิ่งทะนง โลกส่วนตัวสูง ซีเรียสอยู่ตลอดเวลาจนใครก็เข้าไม่ถึง ไม่สามารถทำงานร่วมกับใครได้

อย่างราบรื่นหรอก ฉะนั้น ปล่อยวางบ้าง จริงจังเวลาทำงาน เวลาพักก็หามุกตลกมาเล่น ชวนคนอื่นคุย จะทำให้ดูเข้าถึงง่ายและน่าคบค้าสมาคมขึ้นเยอะ พ ย า ย า มเป็นกันเองกับเพื่อน

ร่วมงานทุกคน แต่อย่าลามปามจนล้ำเส้นใคร และก็ต้องไม่ยอมให้ใครมาล้ำเส้นเหมือนกัน

ขอบคุณที่มา : s a n o o k . c o m

Load More Related Articles
Load More By FahFah FahFah
Load More In ข้อคิด

Check Also

คนที่มีความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ทำไมมักมีสิ่งที่มองไม่เห็น คอยช่วยเสมอ

พ่อแม่ของเรา มีพระคุณเหนือกว่าขุนเขา เหนือกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ แม้จะเอาแบกไว้ไหล่ซ้าย ขวา ทั…