“แม่จ๋า ทำไม แม่ไม่ค่อยมีเพื่อนเลยพอเราโตขึ้น คนที่รักเราจะน้อยลงเหรอจ๊ะ” ลูกหมาถามแม่หมา
“ไม่หรอกจ๊ะเมื่อเราโตขึ้นเราจะเหลือคนที่รักเราจริงๆต่างหาก เราจะมากที่คุณภาพไม่ได้มากที่จำนวน
เวลาจะคัดสรรคนที่เหมาะสมและมีคุณภาพไว้กับเรา ถ้าเป็นมิตรที่เหลือ ก็จะเป็นมิตรที่มีคุณภาพและรักเรา
ถ้าเป็นศั ต รูที่เหลือ ก็จะเป็นศั ต รูที่จะเป็นแรงผลักดัน ให้เราต่อสู้เพื่อที่จะก้าวหน้าต่อไป”
แม่หมาตอบพลางเดินนำต่อไป
“แล้วถ้าวันหนึ่ง หนูโตพอที่จะเลือกทางเดินเองได้แม่จะไม่ทิ้งหนูไปไหนใช่ไหม” ลูกหมาถามต่อ
“เมื่อวันหนึ่งหนูเลือกทางเดินได้เอง แม่ก็ยังจะคอยอยู่ข้างๆหนูเหมือนเดิม แต่เมื่อหนูโตขึ้น หนูก็ต้องหา
ใครสักคนมาเดินข้างกาย แม่ก็จะถอยมาวิ่งข้างหลัง แต่ยังคงเฝ้ามองหนู จนวันหนึ่งที่แม่วิ่งไม่ไหว แม่ก็จะหยุด
แล้วมองหนูต่อไปหรือจนวันหนึ่งที่แม่ต้องจากไป แม่ก็ยังจะวิ่งอยู่ในใจของหนูตลอดกาล
ชีวิตคือการก้าวเดินไปข้างหน้า แต่หนูจงจำไว้ว่า การก้าวไปจะมีคุณค่า เราจะต้องไม่ลืมคนข้างหน้า ข้างๆ
หรือแม้แต่ข้างหลัง เพราะนั่นคือพลั งทั้งหมดที่คอยผลักดันหนูให้ก้าวไป พร้อมกับพลั งของตัวหนูเอง
น้ำทะเลอาจทำให้รอยเท้าของเราจางหายไป แต่น้ำทะเลไม่อาจทำให้เราลืมว่าเรามาจากไหน และมากับใครหรอกนะ ”
แม่หมาตอบและยิ้มให้ลูกหมา ลูกหมาไม่ตอบอะไร ได้แต่เดินช้าลง แม่หมาสงสัยจึงถามว่า ทำไมเดินช้าจัง ลูกหมา
ส่งยิ้มหวานไปก่อนตอบไปว่า “ก็หนูอยากมีเวลา เดินกับแม่นานๆไง”
ขอบคุณที่มา : หนังสือ นิทานยิ้มหวาน โดย คิ้วต่ำ