
แม้ว่าเงินจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคนเรา แต่เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินก็ยังคงเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ตัวเองและคนที่เรารัก อย่างที่เรามักจะเห็น
เศรษฐี ทั้งหลายมีเงินมากมาย มีชีวิตที่ดี จนบางครั้งแอบนึกอิจฉา ส่วนหนึ่งนั้นมาจากหน้าที่การงานที่พวกเขาทำ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ “นิสัย” ที่พวกเขามีกันค่ะ ในความเป็นจริงแล้ว
ความร่ำรวยนั้นไม่ได้มาจากเพียงแค่โ ช คหรือโอกาสเท่านั้น แต่มันยังมาจากนิสัยบางอย่างที่เราทุกคนทำซ้ำ ๆ ในทุกวันของชีวิต และวันนี้ดิฉันมีนิสัย 7 อย่างที่ว่านั้นมาให้อ่านกันค่ะ
1. ตั้งเป้าของความสำเร็จไว้ล่วงหน้า
เราต้องยอมรับความจริงก่อนว่า ความร่ำร ว ย ที่เกิดขึ้นมานั้นไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่มันเกิดจากการสร้างตามเ ป้ าห ม า ยที่เราวางไว้ เศรษฐีส่วนใหญ่มักจะมองเห็นเ ป้ าห ม า ย
ของตัวเองว่า “อยากจะทำอะไร” ดังนั้นถ้าหากคุณอยากเป็นเศรษฐี ลองถามตัวเองก่อนดีไหมคะว่า “เ ป้ าห ม า ยของเราคืออะไร” และที่สำคัญ ต้องไม่ใช่แค่คำว่า “อยากร ว ย”
“อยากสบาย” “อยากมีเงินใช้” แต่มันต้องเป็นเ ป้ าห ม า ยที่ชัดเจนและวัดผลได้ ตัวอย่างเช่น “ฉันจะมีเงิน 1 ล้านใน 5 ปีต่อจากนี้ โดยวิธีการสร้างรายได้เพิ่มจากการทำธุรกิจออนไลน์
2. จับจ้องในเป้าหมายทุกๆวัน
เมื่อตั้งเ ป้ าห ม า ยแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการจับจ้องหรือ Focus ไปที่เ ป้ าห ม า ย ใช้พ ลั งและความคิดสร้างสรรค์ที่เรามีเพื่อให้รู้ว่า เราจะไปถึงเป้าห ม า ยได้อย่างไร อย่างเช่น ถ้าเรา
บอกตัวเองว่าอยากทำธุรกิจออนไลน์ เราต้องรู้ด้วยว่าเราจะทำธุรกิจออนไลน์แบบไหน อย่างไร และทำยังไงบ้าง สำหรับเรื่องนี้ Brian Tracy นักสร้างแรงบันดาลใจชื่อดังเคยบอกไว้ว่า..”
เศรษฐีนั้นไม่ใช่คิดถึงเ ป้ าห ม า ยทุกเดือนหรือทุกวัน แต่พวกเขาเหล่านั้นคิดถึงเ ป้ าห ม า ยและความก้าวหน้าในทุก ๆ ชั่ วโมงเลยทีเดียว”
3. ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้
อุปนิสัยที่สำคัญสำหรับเศรษฐีอีกข้อหนึ่งคือ “ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้” และที่สำคัญกว่านั้นคือ “ต้องมีวินัยในการออม” ไปพร้อม ๆ กัน ไม่ใช่พอมีรายได้เพิ่มขึ้นแล้วจะกลายเป็นหน้าใหญ่ใจโต
ซื้อของโก้หรูมาใช้ เปลี่ยนบ้านใหม่ รถใหม่ แต่เราต้องสร้างนิสัยที่ดีเรื่องการเงินไว้ล่วงหน้าต่างหากค่ะ
4. สร้างคุณค่าในงานที่ทำ
เศรษฐีส่วนใหญ่จะสร้างคุณค่าในงานมากกว่าคนธรรมดาถึง 2-3 เท่า นั่นคือใส่ความตั้งใจลงไปในงานทุกชิ้นที่พวกเขาได้ลงมือทำ รวมถึงทุ่มเททำงานโดยที่ไม่ย่อท้อ และที่สำคัญไปกว่านั้น
พวกเขายังเลือกสร้างคุณค่าในตัวเองด้วยการล งทุ นทางด้านความรู้ตลอดเวลาอีกด้วย
5. ไม่เคยท้อแท้แม้จะไม่ถึงเ ป้ าห ม า ย
แน่นอนว่าเราทุกคนไม่ใช่มนุษย์ขั้นเ ท พ ย่อมจะมีสิ่งที่ผิดพลาดและไม่ประสบความสำเร็จในระหว่างทางที่ก้าวเดิน ธุรกิจอาจจะเจ๊ง เป้ าห ม า ยอาจจะพลาด แต่สำหรับคนที่มีคุณสมบัติเป็น
เศรษฐีนั้น เมื่อผิดพลาดและผิดหวังจากสิ่งที่ทำ เขามักจะถามตัวเองเสมอว่า “เราได้เรียนรู้อะไรจากข้อผิดพลาดนั้นบ้าง” เมื่อได้คำตอบแล้ว ก็อย่าทำพลาดซ้ำสองอีก นี่แหละค่ะคือเหตุผลที่
ทำให้เศรษฐีทั้งหลายไม่ยึดติดกับความผิดหวัง แต่มุ่งเ ป้ าห ม า ยไปยังความสำเร็จตลอดเวลา ชนิดที่เรียกว่า ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งได้ “JK Rowling ผู้เขียนหนังสือชื่อดังอย่าง Harry Potter
เคยโดนสำนักพิมพ์ปฎิเสธงานถึง 12 ครั้งก่อนที่จะได้รับการตีพิมพ์ แต่เธอไม่หยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์ผลงาน เพราะเชื่อว่า…หนังสือเรื่องนี้คือเ ป้ าห ม า ยของชีวิต”
6. เข้าใจความเสี่ยง
เรามักจะเห็นเศรษฐีหลายคนกล้าทำอะไรที่แหวกแนวกว่าคนอื่น จนบางครั้งอาจจะดูเหมือนกับคน บ้ า แต่ที่จริงแล้วความสำเร็จที่ได้จากความบ้ านั้น มันเกิดจากความเข้าใจในเรื่องความเสี่ ย ง
ต่างหากค่ะ เพราะเมื่อไรที่เราเข้าใจความเสี่ ย ง เราจะมองเห็นภาพชัดเจนทั้งเรื่องของต้นทุนและความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าระดับความล้ มเห ล วเป็นที่ยอมรับได้ นั่นแหละคือสาเหตุที่
เค้ากล้า แม้ว่าคนอื่นจะมองว่า บ้ า ก็ตาม
7.หลายคนมักมีความเชื่อผิด ๆ
ว่า คนรวยคือคนที่เห็นแก่ตัว เบียดเบียนคนอื่น แต่ทว่าเศรษฐีที่แท้จริงนั้น เขาจะเป็นผู้สร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นต่างหากค่ะ เพราะยิ่งเขามีเงินมากขึ้น เขายิ่งช่วยเหลือโลกนี้ได้มากขึ้น และที่สำคัญ
การสร้างความร่ำรวยทั้งหลายนั้น คือ การสร้างคุณค่าให้กับคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นความคิดอันทรงพ ลั ง หรือผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง ถึงจะทำให้คนเหล่านั้นกลายเป็น
เศรษฐีตัวจริง และที่สำคัญที่สุด คนเหล่านี้ไม่เคยคิดเห็นแก่ตัว แต่คิดจะให้ผู้อื่นตลอดเวลา ซึ่งความนิสัยเหล่านี้นี่เองที่ทำให้พวกเขาเป็นเศรษฐีที่มีสมบัติมากมายจนใคร ๆ ต่างก็พากันชื่นชม
และอิจฉา เป็นอย่างไรบ้างคะ คุณมีนิสัยเหล่านี้กี่ข้อกันเอ่ย ถ้ามีครบทุกข้อแล้วล่ะก็ ดิฉันของทำนายได้เลยว่า การเป็นเศรษฐีของคุณคงอีกไม่นานเกินรอ แค่เพียงสร้างและรั กษ านิสัยของคน
เป็นเศรษฐีเหล่านี้ไว้ให้ดีเท่านั้นเองค่ะ
ขอบคุณที่มา : a o m m o n e y . c o m