1. เปลี่ยนค่าใช้จ่าย ให้เป็นการออม
หากเรามีการยกเลิกค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น การเปลี่ยนโปรมือถือให้ถูก หรือการยกเลิกเคเบิ้ลทีวีแน่นอนว่าต้องมีเงินเหลือ ถ้าอยากเก็บเงินให้ได้เพิ่มขึ้นก็ให้เอาเงินที่เหลือนั้น
จากที่เราต้องคอยจ่ายทุกๆ เดือน มาออม ก็จะได้เงินออมเพิ่มขึ้น
2. หักเข้าบัญชี อัตโนมัติ
จะมีความตั้งใจอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ ควรทำเรื่องวางแผนการเงินให้เป็นเรื่องอัตโนมัติไปเลยโดยที่เราแทบไม่ต้องมานั่ง ป ว ด หั ว ว่าจะต้องออมเงินเท่าไหร่ยังไงโดยให้
เข้าไปคุยกับธนาคาร แล้วขอจัดระบบโ อ น เ งิ นอัตโนมัติเพียงเท่านี้ก็จะไม่พลาดหรือลืมเก็บเงินตาม ที่ต้องการแล้วล่ะ
3. ตั้งชื่อให้ แต่ละบัญชี
พอเราเปิดบัญชีเงินฝาก ชื่อบัญชีก็เป็นชื่อของเราหรือเป็นเลขบัญชีดูน่าเบื่อสุด ๆ ใช่มั้ยล่ะยิ่งหากเรามีหลายบัญชีก็ยิ่งสับสนว่าแต่ละบัญชีจะใช้ทำอะไร ถ้าอยากออมเงินให้ได้มากขึ้น
ก็ให้เขียนไว้หน้าสมุดบัญชีว่าบัญชีนี้ใช้สำหรับอะไรกัน เราอาจจะตั้งชื่อให้แต่ละบัญชีเช่นถ้าเป็นบัญชีเก็บเงินไปเที่ยวก็อาจจะตั้งเป็น ทริปไปฝรั่งเศสอะไรแบบนี้ให้เรารู้สึ กสนุกไปด้วย
และออมเงินได้ด้วย
4. เอาเงิน โบนัสมาออม
ไม่ว่าจะเป็นเงินโบนัส หรือการได้เงินคืนจากที่ใด ๆ ก็ตามแต่หากอยากเก็บเงิน ให้ได้เพิ่มขึ้นนั้น การที่เราจะออมเงินส่วนเกินที่เราไม่ได้ใช้ ก็จะทำให้เราสามารถออมเงินได้มากขึ้น
5. เงินเดือนขึ้น ก็ให้เก็บส่วนต่าง
สมมุติปีนี้ ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 2,000 ก็ให้เก็บเงิน ตรงนี้ไว้ในบัญชีเงินฝากจะดีเลยเพราะหากเราไม่ได้มีอะไรที่จำเป็น ต้องใช้เงินเพิ่ม ก็ออมเงินตรงนี้ไว้ใช้ตอนเกษียณจะมั่นคงนะ
6. ใส่กุญแจ ล็อกไว้เลย
หากมีเงินส่วนใด ที่เราไม่ได้ใช้ แล้วเราเองคิดอยากจะออมเงินขึ้นมาก็ให้นำเงินไปเก็บไว้ในที่ที่นำออกมายากนะ เช่นการเก็บเงินไว้ในบัตรเงินฝากที่จะทำให้เราถอนเงินออกมาไม่ได้
เว้นแต่จะจ่าย ค่ า ธ ร ร มเ นี ย มเล็กน้อยมันเหมาะกับการออมเงิน ไว้สำหรับก่อนเกษียณเราสามารถเก็บเงินส่วนที่เหลือไว้กับตัวได้ ไว้ใช้ใน ย า ม ฉุ ก เ ฉิ นโดยมีขั้น ต่ำสัก 20,000
ก็โอแล้ว มีหลากหลายวิธีเลย ที่จะทำให้เก็บเงินได้ โดยที่ไม่ต้องทำตัว ประหยัดจนเกินไปหากเราวางแผนการเงินของตัวเองให้ดี ๆเราก็จะมีเงินเก็บไว้ใช้ใน ย า ม ที่เราจำเป็นจริงๆ
หรือใช้ในตอนแก่นั่นเอง“หากเราเป็นฝ่ายที่สามารถควบคุ มเงิน เราจะมีทั้งอิสระและความร่ำรวยในชีวิตแต่หากปล่อยให้เงินเข้ามาควบคุม เราก็จะมีแต่ความยากจน ข้ น แ ค้ น”
ขอบคุณที่มา : m o n e y h u b