ฟังดูแล้วอาจจะหัวเราะพร้อมบอกเลยว่า “เป็นไปไม่ได้” กับการที่มีเงิน 5,000 จะทำให้เป็น 50,000 ได้ในเวลาแค่ 6 เดือน หลายคนบอกพูดได้แต่ทำไม่ได้ แต่ เรา มองเรื่องนี้ว่าทำได้ แต่
สิ่งสำคัญกับการเริ่มต้นที่เงินหลักพันแต่จะไต่ไปถึงครึ่งแสนในเวลาจำกัด 6 เดือน ถ้าตัดเรื่องโชค เรื่องดวงทิ้งไป เรื่องนี้จำเป็นต้องใช้ความอุตสาหะและตั้งใจ มีระเบียบวินัยในตัวเองแบบสุดๆ
ซึ่งทั้ง 6 วิธีการนี้มีหลายคนที่เคยลองทำและก็มีคนทำสำเร็จ ในทางกลับกันก็มีอีกจำนวนมากที่ทำไม่สำเร็จ ความแตกต่างคือ คำว่า “พย ายาม” ที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างกันด้วย
1.สร้างแบรนด์สินค้าตัวเอง
อย่าเพิ่งบอกว่าเพ้อเจ้อ อย่าเพิ่งพูดว่าเป็นไปไม่ได้ เงินแค่ 5,000 จะมาทำแบร น ด์สิ นค้ าตัวเองได้ไง เรื่องนี้มีตัวอย่างให้เห็น มีคนทำได้และมีคนทำแล้ว อย่างแบรนด์ “ข้าวเ ม่ ามิ ก ซ์” ที่
เจ้าของชื่อ “พี่กาย” อดีตเคยเป็นนักวาดการ์ตูน เมื่อสื่อสิ่งพิมพ์เริ่มถ ดถอ ย อาชีพนักวาดการ์ตูนก็เลยไม่ค่อยมีรายได้ พี่กายลองพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับตัวเอง 5,000 เล่ม ปรากฏว่าขายได้
น้อยมาก เสี่ย ง อ ด ต า ย งานก็ไม่มี หนังสือก็ข า ยไม่ออก นำเงินที่มีน้อยนิดแค่ 5,000 มาล งทุ นกับข้า วเ ม่ า ทำเอง ทอดเอง หาตลาดเอง แต่ใช่ว่าจะดีในทันที โดนปฏิเสธมากกว่า
กลับมาคิดอีกครั้งคราวนี้เป็นสินค้าข้า วเ ม่ าเหมือนเดิมแต่สอดแทรกการวาดการ์ตูนอ่านฟรีใน F a c e b o o k และ P a n t i p เ นื้ อ เรื่องก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายสู้ชีวิตผู้ ผ จ ญภั ย
ตามหาวัตถุมาทำขนมก็สร้างปรากฏการณ์คนอ่าน Follow จำนวนมาก ระหว่างนั้นก็คิดสูตรข้า วเม่ าทอดใหม่ๆออกมาด้วย ทอดเอง กินเอง เรียกว่ากินแทนข้าวก็ว่าได้ สุดท้ายเงินทุนหมด
ของยังขายไม่ได้ กลยุทธ์สุดท้ายคือ เฉลยในการ์ตูนว่าข้า วเม่ าที่ตัวการ์ตูนกำลังตามหาคือ “ข้า วเม่ ามิกซ์” ใครสนใจสั่ งซื้ อได้ห่อละ 49 บาท รับออร์เดอร์ทีแรกได้เงิน 30,000 บาท
แต่ก็ยังไม่วายโ ด นด่าเพราะข้า วเ ม่ าที่ส่งให้ลูกค้ามันไม่กรอบเหมือนตอนทอดใหม่ๆ ต้องมาสอบถามผู้รู้และได้เทคนิคว่าต้องซื้อเครื่องอบสินค้าจะได้กรอบนานเป็นเดือน ปัจจุบัน ข้า วเม่ ามิกซ์
ของพี่กายกลายเป็นธุรกิจครอบครัวสร้างยอดขาย 30,000 – 50,000 ต่อเดือน เขาใช้เวลาในการก้าวมาถึงจุดนี้ประมาณ 5-7 เดือน แต่เป็น 5-7 เดือนที่สู้แบบถว า ยชีวิต
2.กัดฟั นเก็บเงินวันละ 300 บาท
ต้องเรียกว่ากัดฟั นกันเลยทีเดียว เพราะค่าแรงขั้นต่ำตอนนี้ก็แค่ 300 บาทเท่านั้น ไหนจะค่ากิน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าน ม ลู ก ค่ารถ ค่าจิปาถะ อย่าว่าแต่วันละ 300 เลย บางคนแค่วันละ 30 ยังเก็บ
ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่พอจะมีแรงและมีกำลังเช่นคนที่มีเงินเดือนประมาณ 20,000 บาท จะมีรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 666 บาท และหากต้องการเงินจำนวน 50,000 ก็ต้องแบ่งมาเก็บ
วันละ 300 จะเหลือกินเหลือใช้อีกประมาณ 366 บาท หมายความว่าก่อนจะทำแบบนี้ได้เราต้องมีเงินทุนอีกสักก้อนเอาไว้สำรองตอนที่กำลังกัดฟั นเก็บเงินก้อนใหม่นี้ แต่วิธีนี้ไม่แนะนำสำหรับ
คนรายได้น้อยเพราะไม่มีทางทำได้แน่ ที่สำคัญต้องมีวินัยในการเก็บเงินแบบสุดๆ วันแรกๆ อาจไม่เป็นอะไรเท่าไหร่ แต่พอไปกลางเดือน ท้ายเดือนนี่แหละปัญหาว่าจะเก็บได้ไหม วันละ 300 บาท
3.ฝากธน าค า รเดือนละ 8,333 บาท
คล้ายกับการเก็บเงินรายวัน แต่มาเปลี่ยนเป็นรายเดือน จะทำให้ดูลดความกดดันสำหรับบางคนได้ ยิ่งบางคนอาจจะทำงานหลายอย่างมีรายได้หลายทาง นอกจากงานประจำอาจจะขายของ
ตลาดนัดตอนเย็น เป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รับงานฟรีแลนด์ สิ่งที่ควรทำคือ ต้องรู้ว่าแต่ละเดือนตัวเองมีรายรับเข้ามาเท่าไหร่ มีรายจ่ายออกไปเท่าไหร่ ทางไหนบ้าง และในจำนวนรายรับที่
เข้ามาทั้งหมดจะเป็นไปได้ไหมหากจะหักเก็บฝากธน าค า รเดือนละ 8,333 บาท พอครบ 6 เดือนเราจะมีเงินในบัญชี 50,000 บาท ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเงินตัวเองเป็นสำคัญ
ซึ่งหากวิธีนี้บอกว่าคงไม่ได้ ก็ต้องมาลองดูวิธีอื่นกันต่อไป
4.วิธีเปลี่ยนเหรียญเป็นเงิน 50,000
ยังอยู่ที่การออมนี่แหละ คราวนี้ลองลดความกดดันลงไปอีกหน่อยมาลองเก็บเหรียญกันดูบ้าง วิธีการคือ ไม่ใช้เงินเหรียญที่ได้จากการทอนค้าสินค้า จากการขนรถประจำทาง จากการใช้จ่ายใน
แต่ละวัน เรียกว่าได้เหรียญมาเท่าไหร่ก็เก็บเหรียญไว้ทั้งหมด ถามว่าแล้วจะได้ผลไหม คำตอบคือได้แต่ “นานหน่อย” สมมุติทุกวันเราจะได้เงินเหรียญต่างๆ จากการซื้อสินค้า โน่นนี้นั่น และขึ้นรถ
ลงเรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกวันจะต้องมีเหรียญ 10 เหรียญ 5 เหรียญ 2 บาท เหรียญ 1 บาท เชื่อหรือไม่ว่าบางทีเงินเหรียญที่ได้มีค่าเกือบ 100 บาท ซึ่งมันก็ไม่แน่นอนแล้วแต่รายบุคคล สรุปคือ
ถ้าเราเก็บเหรียญทั้งหมดนี้ในแต่วันคร่าว สัก 70-80 บาทต่อวัน ในระยะเวลา 6 เดือนเราจะมีเงินเหรียญเหล่านี้ประมาณ 15,000 บาท เอ้า! หมื่นห้าไม่ใช่ห้าหมื่น แม้จะดูห่างไกลจากเ ป้ าที่
ตั้งใจ ลองตัดเรื่องเวลาออกไปบางคนที่คิดการณ์ไกลเริ่มเก็บเงินแค่วันละ 10 บาทตั้งแต่เรียนปี 1 พอจบ ปี 4 เขาก็มีเงินทุนสำรอง 50,000 บาท ไม่รวมกับเงินก้อนอื่นที่อาจจะมีเก็บเพิ่ม
ไว้ในบัญชีอื่นอีกด้วย
5.ซื้อแฟร นไ ช ส์ราคาไม่เกิน 5,000
แฟร นไ ช ส์ไหนบ้างที่มองดูแล้วน่าจะมีรายได้ 50,000 ในเวลา 6 เดือน โฟกัสไปที่แฟร นไ ช ส์อ าหา รปิ้งย่างเพราะขายง่าย ขายดีและล งทุ นไม่แพงด้วย ยกตัวอย่างคือ ต.เนื้ อ ย่าง
มีชุดทดลองขายงบลงทุน 3,000 บาท ได้เนื้ อโคขุนติดมัน 500 ไม้ ขายไม้ละ 10 บาท รายได้ 5,000 กำไร 2,000 บาท และคำนวณเล่นๆ ถ้าในแต่วันเราขายเนื้ อ ย่างได้ 100 ไม้
รายได้ 1,000 บาท ใน 1 เดือนมีรายได้ 30,000 บาท หักลบกับต้นทุนวัตถุดิบ ค่าเช่าที่ ค่าจิปาถะก็น่าจะเหลือเดือนละกว่า 10,000 บาท ในเวลา 6 เดือนก็ต้องมีเงินเก็บไม่น้อยกว่า 50,000
ได้แน่ หรือจะลองข า ย ห ม่ าล่ า กับแฟร นไ ช ส์ ห ม่ าล่ า ซะป๊ะกริลล์ ที่เลือกเซตล งทุ นได้ตั้งแต่ 3,000 – 4,000 บาท ได้พริก ห ม่ าล่ า และอุปกรณ์เบื้องต้นในการขาย ราคาขาย
หม่ าล่ าก็เริ่มต้นไม้ละ 10 บาท รายได้เฉลี่ยก็ใกล้เคียงกับเ นื้ อ ย่างและน่าจะเป็นเมนูกินง่าย ขายง่าย ที่รายได้ดีด้วย
6.หารายได้เพิ่มจากการทำงานเพิ่ม
ถ้าวิธีการออมแบบต่าง การล งทุ นเ ท ร ดหุ้ น การซื้อแฟร นไ ช ส์ยังไม่เหมาะกับตัวเรา วิธีที่ง่ายและตรงตัวที่สุดคือ ถ้าอยากมีรายได้เพิ่ม ก็ต้อง “ทำงานเพิ่ม” เหตุผลง่ายๆ ถ้าสมมุติเรา
มีเงินเดือน 15,000 บาท เงินก้อนนี้ต้องใช้กิน ใช้จ่าย จิปาถะ เรียกว่าเดือนชนเดือนหรือบางทีก็ไม่พอใช้ใน 1 เดือนด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินเก็บ แค่จะกินเข้าไปยังไม่พอ แนะนำว่า
ไปหางานทำเพิ่ม ซึ่งเราต้องแลกกับความเหน็ดเหนื่อยที่มากขึ้น ถามว่าทำงานอะไรได้บ้าง หลังจากเลิกงาน ถ้าไม่เลือกเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ลองไปขายของออนไลน์ หรือไปสมัครตัวแทน
ประกัน หรือถ้ามีความรู้มากหน่อยรับเป็นติวเตอร์ หรือใครมีความสามารถด้านร้องเพลง เล่นดนตรีก็อาจรับงานพิเศษกลางคืน รายได้จากการทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนี้จะช่วยให้เรา
มีเงินในแต่ละเดือนเพิ่มมากขึ้น สมมุมติว่าเพิ่มขึ้นมาอีกเดือนละ 10,000 บาทนั้นหมายความว่าเราอาจใช้เงินก้อนนี้สำหรับการเก็บออม และใช้เงินเดือนสำหรับการจับจ่ายใช้สอย ก็จะทำให้
เรามีเงิน 50,000 ในเวลาไม่เกิน 6 เดือนได้ แต่ขอบอกว่าวิธีนี้เหนื่อยและทำให้เวลาพักผ่อ นเราน้อยลง ก็ควรบริหารจัดการเวลาให้ดีๆ เพราะเสี่ยงที่เงินเก็บของเราอาจต้องใช้จ่ายเป็นค่า
หม อรั กษ าอาการเจ็ บป่ว ยที่พักผ่อนไม่เพียงพอได้ อันที่จริงก็ยังมีวิธีแบบไม่ต้องออม ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเสี่ย งเ ล่ นหุ้ น แต่เน้นเรื่องโช คและดว งล้วนๆ อย่างการซื้อลอ ตเต อ รี่หรือ
ฉลา กออ มสิ น ที่ล งทุ นน้อย แต่โอกาสได้รางวัลใหญ่ๆก็น้อยตามไปด้วยเฉลี่ยโอกาสได้รางวัลใหญ่มีไม่ถึง 1 % วิธีที่ดีที่สุดคือทำงานเพิ่ม เก็บออมไปด้วย และแบ่งเงินเล็กๆน้อยสักเดือนละ
100 มาลองเสี่ยงโช คคู่กันไป ใครจะรู้ว่าถ้าเราดว ง ดี งานรุ่ง โชคลาภดี อาจได้เงินทั้งจากงานที่ทำ เงินที่เก็บอม และเงินที่เกิดจากการเสี่ย งโช ค ถ้า 3 อย่างมาพร้อมกันคำว่าเศรษฐีย่อมๆ
อยู่ในกำมือของเราแน่นอน
ขอบคุณที่มา : t h a i s m e s c e n t e r