“สูตรการออมเงิน” เป็นเหมือนคัมภีร์เคล็ดวิชาลับที่หลายคนต่างออกตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที จะว่ามันหายากก็ไม่ใช่ครับ สูตรการออมมีเยอะมาก แต่สิ่งที่ทำให้ยากก็คือปัจจัยส่วนตัว
ของแต่ละคนครับ บางคนจำเป็นต้องส่งที่บ้าน บางคนมีหนี้ต้องจ่าย บางคนต้องเลี้ยงดูลูก ทำให้สูตรที่ได้มาปรับใช้กับตัวเองไม่ได้แต่ผมไปเจอมาสูตรนึงครับน่าสนใจมากเลย เพราะเค้าแบ่ง
เงินเก็บไม่เยอะมาก เน้นความสมดุลในชีวิตไม่ให้เ ค รี ย ดหรือตึงจนเกินไป นั่นก็คือ “สูตร 50/30/20” ครับ
50/30/20 ถ้าจะให้อธิบายสูตรนี้แบบกว้าง ๆ ก่อนก็คือ สูตรออมเงินแบบ 50/30/20 เป็นการแบ่งรายจ่ายออกเป็นส่วน ๆ มากน้อยแตกต่างกันไปตามความสำคัญครับ โดยสูตรนี้จะแบ่งรายจ่ายต่อเดือน
ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ ก้อนแรก 50 เปอร์เซ็นต์เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องจ่าย ก้อนที่สอง 30 เปอร์เซ็นต์ไว้สำหรับความสุขส่วนตัว และก้อนสุดท้าย 20 เปอร์เซ็นต์ไว้สำหรับเงินฉุ กเ ฉิ นและเงินออม
50% = ค่าใช้จ่ายจำเป็น
สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่กันส่วนแบ่งไว้เยอะที่สุดถึงครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายทั้งหมด สูตรนี้เค้าบอกว่าเอาไว้ใช้ไปกับสิ่งจำเป็นที่ต้องจ่ายครับ อย่างเช่น ค่าเช่าบ้าน ค่างวดคอนโด ค่างวดรถยนต์
ค่าไฟฟ้า ค่าอ าห า ร เป็นต้น สำหรับค่าอ าห า รนี่ไม่ได้หมายถึงมื้อหรูบนห้างนะครับ เป็นค่าอ าห า ร 3 มื้อต่อวันที่ไว้สำหรับกินกัน ต า ย น่ะครับ
30% = ใช้กับสิ่งที่ต้องการ
สิ่งที่ต้องการหรือความสุขส่วนตัวนั้น สูตรนี้อนุญาตให้ใช้ได้ถึง 30% ของรายจ่ายเลยครับ ดูเหมือนน้อยนะแต่ที่จริงมันเยอะมาก ลองคิดดูว่าถ้าคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท สูตรนี้บอกว่าคุณ
สามารถสุรุ่ยสุร่ายได้ถึง 9,000 บาทเลยนะครับ แล้วเงินก้อนนี้ไม่เกี่ยวกับค่าข้าวนะครับ มันคือการซื้อความสุขล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพาแฟนไปดินเนอร์ในร้านหรูบนห้าง ซื้อรองเท้าคู่โปรด
หรือออกเดินทางท่องเที่ยวก็อยู่ในงบก้อนนี้ทั้งสิ้นครับ
20% = เงินออมที่ควรเก็บ
มาถึงส่วนสำคัญของสูตรนี้กันแล้วครับนั่นก็คือส่วนของเงินออมเผื่อฉุ กเ ฉิ นหรือไว้ใช้ยามเกษียณนั่นเอง บางคนอาจบอกว่าทำไมให้เก็บน้อยจัง 20% เอง แบบนี้จะพอใช้หรอ แล้วเมื่อไหร่จะรวย …
ใจเย็น ๆ ครับ ถ้าคิดว่าจะเก็บเงินไว้ในธ น าค า รอย่างเดียว ยังไงก็ไม่รวยหรอกครับ เงินตรงนี้ต่อเดือนอาจจะได้น้อย แต่ถ้าเราหมั่นหยอดไว้ในธ น าค า ร กองทุน พอร์ทหุ้น เก็บเล็กผสมน้อย
ไปเรื่อย นานวันเข้ามันก็จะมีมูลค่าขึ้นมาเองครับ เป็นไงครับสูตรนี้ ผมว่าพอใช้ได้เลยนะเหมาะสำหรับคนที่ยังเคว้งอยู่ไม่รู้จะเริ่มออมเงินยังไง ก็สามารถยึดตามสูตรนี้ได้เลย แต่เราไม่จำเป็นต้อง
ไปยึดติดกับตัวเลขมากเกินไปนะครับ สามารถปรับตัวเลขได้ตามสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองได้ อย่างถ้าคุณมีรายได้เดือนละ 60,000 บาท แต่ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือนไม่ถึง 20,000 บาท
ก็เพิ่มเงินออมเป็น 40% ส่วนค่าใช้จ่ายจำเป็นเหลือเพียง 30% ก็ได้ครับ สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนหรอกครับ แต่ผมคิดว่าเป็นวินัยของเรา
การวางแผนที่รัดกุม และความสม่ำเสมอมากกว่า เราอาจเก็บได้เดือนละ 1,000 บาท มันอาจดูเหมือนน้อยนะ แต่ถ้าเราเก็บได้ทุกเดือน แล้ววางแผนนำเงินที่ได้ไปลงทุนต่อยอดไปเรื่อย ๆ
สักวันเงินล้านต้องมาหาเราแน่นอน
ขอบคุณที่มา : l i v i n g i n s i d e r.c o m