เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักปล่อยวาง
เรื่องราวบางอย่าง ที่ควรวางต้องรู้จักปล่อย เพราะใจของคนเรา แบกรับได้จำกัด อย่าเอาแต่คับแค้นฝังใจเมื่อใดที่ปล่อยวางเมื่อนั้นย่อมเป็นอิสระ ปล่อยวางตำแหน่ง
ฐานะที่เคยดำรง ปล่อยวางชื่อเสียงสักการะที่เคยครอบครองปล่อยวางอดีต เรียนรู้ในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เป็นสุขได้ในวัยชรา
เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักตัดใจ
ของบางอย่าง เมื่อสูญหายไปแล้วก็อย่าได้ยึดผูก คิดให้ได้ว่าเดิมทีมันก็ไม่ได้เป็นของคุณ และจงเชื่อเถิดว่าหากเป็นของคุณมันย่อมไม่มีทาง สู ญ ห า ย ดังคำกล่าวที่ว่า
“หากเอาแต่ร่ำไห้ที่เสียพระอาทิตย์และพระจันทร์ไป สักวันคุณจะเสียดวงดาวไปอีกอย่างหนึ่ง”ดังนั้น ตัดใจได้ในสิ่งที่สูญเสี ย ไปแล้วจึงสามารถรั ก ษ า สิ่งที่ควรมีอยู่ไว้ได้
เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักวางมือ
คุณไม่มีทางทำแทน ลูกหลานไปตลอดชีวิต ดังนั้นต้องรู้จักวางมือ ลูกหลานมีบุญวาสนาและทางเดินของลูกหลาน หากคิดแทนทำแทนไปเสียหมด คุณเหนื่อยตลอดชาติ
แถมทำร้ า ยลูกหลานไปตลอดชีวิต วันหนึ่งที่คุณจากไปพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อยังไง?การรู้จักวางมือคือการฝึกเชื่อใจในลูกหลาน และเป็นการส่งเสริมลูกหลานไปในตัว
อย่าให้เขาด่าว่าเก่งแต่รุ่นพ่อแม่ แต่ลูกหลานไม่เอาไหน! เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักวางอารมณ์สังคมในอดีตมีความย าก ของคนในอดีต สังคมในปัจจุบันมีความย ากของคน
ในปัจจุบันอย่าเอาอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง ไม่พอใจอะไรก็ด่าว่าลูกหลาน ด่าลูกหลานด้วยอารมณ์ครั้งหนึ่งคุณธรรมของตนหายไปครั้งหนึ่งวาสนาของลูกหลานหายไปส่วนหนึ่ง
เพราะพ่อแม่คือพระพรหมของลูกหากพ่อแม่เอาแต่ แ ช่ ง ด่า ลูกหลานจะเจริญได้อย่างไร?
เมื่ออายุมากขึ้น เปรียบไปดั่งไม้ใกล้ฝั่ง
ตัณหาต้องลดลง ความโลภ ความโกรธ ความหลงต้องลดลง คุณธรรมความสุขุมต้องมากขึ้นความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต้องมากขึ้นหมั่นเตือนตัวเองนะ อยู่ให้ลูกหลาน
เคารพรักมิใช่อยู่ให้ลูกหลานหวาดกลัวจนไม่มีใครยอมเข้าใกล้ จงแก่อย่างมีคุณภาพ อย่าแก่เพียงเพราะอยู่นาน!
ขอบคุณที่มา : นุสนธิ์บุคส์