Home ข้อคิด ฝากถึงมนุษย์เงินเดือน จะเลือก “งานที่ชอบ”หรือ”เงินที่ใช่”

ฝากถึงมนุษย์เงินเดือน จะเลือก “งานที่ชอบ”หรือ”เงินที่ใช่”

6 second read
0
0
339

 “จะเลือกอะไรระหว่าง.. งานที่ชอบกับเงินที่ใช่?” เมื่อทุกอย่างคือปัจจัยสำคัญ

มนุษย์เงินเดือนบางคนอาจจะเคยเจอกับปัญหา ที่ต้องเลือกระหว่างงานที่ชอบกับเงินที่ใช่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้หนักใจและยากที่จะต้องเลือก เพราะไม่ว่าจะเป็นเงินหรืองานก็สำคัญไม่ต่างกัน

บางทีเลือกงานที่ชอบ เงินที่ได้ก็ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในแต่ละเดือน หรือเลือกเงินที่ใช่ งานที่ทำก็ไม่ใช่งานที่เราชอบสักเท่าไหร่ กลายเป็นว่าการไปทำงานในแต่ละวัน มันโ ห ดร้ า ย

กับความรู้สึกเอามาก ๆ ซึ่งก็มีหลายคนที่ได้ทำงานที่ชอบและได้เงินที่ใช่นะครับ แต่สำหรับคนที่กำลังเจอกับปัญหา สุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอเราไปเจอ

กระทู้ที่เขามาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับปัญหาว่า.. ตอนนี้เพิ่งเรียนจบและเข้ามาทำงานเป็นครูพี่เลี้ยงในกรุงเทพฯ ได้ 4 เดือนแล้ว เงินเดือนที่ได้ก็ไม่ถึงหมื่น และฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อย

ดีเท่าไหร่ ลำพังจะเอาชีวิตให้รอดในแต่ละเดือนก็ค่อนข้างลำบาก แต่พ่อกับแม่มองว่า ไม่อยากให้ออกจากงานนี้ เหตุผลเพราะว่างานที่ทำดูดีและมีคุณค่า ทำให้รู้สึกเ ค รี ย ดมาก ๆ

อยากทราบว่า “เราจะเลือกอะไรดีระหว่างเงินที่ใช่กับงานที่ชอบ” มีใครกำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่รึเปล่าครับ? เรามองว่า ถ้าจะให้ตอบก็คงไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง เพราะแต่ละคนมีเงื่อนไขชีวิต

ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็มีปัจจัยหลายอย่างที่เราควรคำนึงถึงด้วยเพราะเราไม่ได้มีชีวิตอยู่แค่วันนี้หรือพรุ่งนี้

 ถ้าต้องเลือกระหว่างงานกับเงิน.. ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง?

1. ชีวิตมีภาระค่าใช้จ่ายต้องดูแล

สิ่งแรกที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้เลยก็คือ “ภาระค่าใช้จ่าย” ที่ทุกคนต่างก็มีกันทั้งนั้น และนี่ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เราไม่สามารถเลือกงานที่ชอบได้ เพราะต่างคนต่างก็มีภาระที่ต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็น

ครอบครัว หรือค่าใช้จ่ายรายเดือนต่าง ๆ เช่น มีเงินเดือน 15,000 บาท แบ่งออม 1,000 ค่าเช่าบ้าน 5,000 ไหนจะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์อีกรวม ๆ ก็ 2,000 บาท จะเหลือใช้ 7,000 บาท ในที่นี้

ยังไม่รวม ค่าใช้จ่ายรายวัน และส่งเงินให้พ่อแม่อีกนะครับ เห็นไหมครับว่าทุกอย่างล้วนต้องใช้เงินทั้งนั้น เลยเป็นเหตุผลให้เราจะต้องเลือกเงินที่ใช่มากกว่างานที่ชอบ

2. หนี้สินที่ต้องชำระในแต่ละเดือน

การมีหนี้สินยิ่งทำให้เราต้องหาเงินมากกว่าปกติ ไหนจะมีภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้องดูแล ก็ยังจะมีหนี้เพิ่มเข้ามาอีก เช่น ค่าใช้จ่ายรายเดือนตกอยู่ที่ 9,000 บาท ไหนจะหนี้ที่ต้องจ่ายใน

ทุกเดือน อีกประมาณ 3,000 บาท ก็จะทำให้เราเหลือค่าใช้จ่ายรายวันเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจจะไม่พอใช้ต่อเดือนด้วยซ้ำ เลยทำให้เราต้องหาเงินเพิ่มมากขึ้น และยิ่งถ้างานไหนสามารถให้เงิน

กับเราได้มากกว่า เราก็ต้องเลือกสิ่งที่มากกว่าอยู่แล้ว เพราะหนี้สินมันเลี่ยงที่จะไม่จ่ายไม่ได้ครับ

3. ไม่อยากทำงานไปจนแก่

เชื่อได้เลยว่าคงไม่มีใครอยากทำงานไปจนแก่กันหรอกครับ ในบั้นปลายชีวิตทุกคนก็อยากที่จะมีชีวิตหลังเกษียณที่สุขสบายกันทั้งนั้น เลยจำเป็นต้องวางแผนเพื่ออนาคต เช่น ตั้งเป้าหมายว่า

จะออมเงิน 40% ของเงินเดือน โดยยึดหลักว่าต้องออมก่อนใช้เสมอ เพียงแค่นี้เ ป้ าห ม า ยหลังเกษียณก็อยู่ไม่ไกลครับ เพราะเหตุผลนี้จึงทำให้เราต้องเลือกในสิ่งที่สามารถให้เราได้มากกว่า

ถึงแม้จะไม่ใช่งานที่ชอบมากนัก แต่ถ้าเป็นผลดีในอนาคตก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเลือก

4. กิเลสของชีวิตมีราคาที่ต้องจ่าย

คนเราทุกคนต่างก็มีสิ่งของที่อยากจะได้ หรือที่เรียกกันว่า “ของมันต้องมี” ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า หรือของแบรนด์เนม สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่จะต้องหาเงินเพื่อแลกให้ได้สิ่งของชิ้นนั้นมาเลยทำให้

เราต้องเลือกงานที่ได้เงินมากกว่า เพื่อจะได้มีใช้จ่ายอย่างไม่ติดขัด และสามารถซื้อได้โดยที่ตัวเองไม่ต้องลำบาก แต่ทั้งนี้ก็ควรให้อยู่ในความพอดี ไม่ให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อยจนเกินไปนะครับ

คำแนะนำจากเรา : ไม่ว่าจะเลือกอะไร เราก็สามารถมีความสุขกับมันได้ เช่น ถ้าเราเลือกงานที่ชอบแต่เงินไม่ดีมาก ก็อาจจะหารายได้เสริมที่ไม่ได้หนักมากทำควบคู่กับงานประจำไปด้วย จะได้

มีรายได้เพิ่มมากขึ้น แถมยังได้อยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบอีกด้วย แต่สำหรับใครที่เลือกเงินที่ใช่ ถ้าไม่ได้ชอบในงานที่ทำมากนัก ก็อาจจะหาความสุขจากอย่างอื่นแทน หรืออาจจะพ ย ายามเข้าใจ

และมีความสุขไปกับสิ่งที่ต้องเจอทุกวัน เพราะเงื่อนไขชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน แต่เราก็ต้องรู้ว่าเ ป้ าห ม า ยของชีวิตคืออะไร จะได้มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ถ้าเหนื่อยจนเกินไปก็ควร

หาเวลาให้ตัวเองพักผ่อนบ้าง จะได้ไม่เ ค รี ย ดจนทำให้ชีวิตของเราไม่มีความสุข ไม่ว่าทุกคนจะเลือกอะไร ก็ลองชั่งน้ำหนักความสำคัญของตัวเองดูครับ ว่าเราเหมาะกับอะไรมากกว่ากัน

บางคนอาจจะชอบทำในสิ่งที่ตัวเองรักมากกว่า หรือบางคนอาจจะมองอนาคตของตัวเองมากกว่า ก็ลองตัดสินใจกันดูครับ เรื่องแบบนี้มันไม่มีคำตอบที่แน่ชัดอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้น

ไม่ว่าเราจะเลือกอะไร สุดท้ายทุกคนก็ต้องทำงานหาเงินเพื่อดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ ถึงอย่างไรก็ตามเราขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่นะครับ “อนาคตเรา..

เราสามารถเลือกเองได้” หรือถ้าเพื่อน ๆ มีวิธีการเลือกแบบไหนก็มาแชร์ให้ฟังกันได้นะครับ

ขอบคุณที่มา : a o m m o n e y t h

Load More Related Articles
Load More By FahFah FahFah
Load More In ข้อคิด

Check Also

คนที่มีความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ทำไมมักมีสิ่งที่มองไม่เห็น คอยช่วยเสมอ

พ่อแม่ของเรา มีพระคุณเหนือกว่าขุนเขา เหนือกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ แม้จะเอาแบกไว้ไหล่ซ้าย ขวา ทั…