เมื่อเงินเดือนออกแล้ว สิ่งแรกที่ทำหลายคนคงกดเงินมาจ่ายค่าใช้จ่ายก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นค่าบ้าน ค่าผ่ อ นรถ ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ จนเมื่อจ่ายครบจบแล้ว คุณอาจต้องตกใจว่า เอ๊ะ! เหลือเท่านี้
จะพอใช้ถึงสิ้นเดือนหรือไม่ วันนี้เราจึงนำเคล็ดไม่ลับใช้เงินให้ชนเดือนมาฝากกัน นอกจากจะมีใช้ถึงสิ้นเดือนแล้ว ยังมีเหลือเก็บด้วย
ข้อแรกที่ต้องทำเลยคือ แบ่งเงินให้เป็นสัดเป็นส่วน
การแบ่งเงินเป็นสัดส่วน จะช่วยให้เราคำนวณการใช้เงินและวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เช่น หากเรามีเงินเดือน 20,000 บาท เราแบ่งเงินเก็บเลย 10% เป็นเงิน 2,000 บาท
เป็นเงินเก็บ แล้วแบ่งว่าจ่ายค่สาธารณูปโภค เช่น ค่าหอ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าซื้อของใช้ส่วนตัว เท่าไหร่ ใช้ในชีวิตประจำวันกี่บาท เหลือใช้จ่ายเพื่อการอย่างอื่นอีกกี่บาท เป็นต้น
ซึ่งนี่เป็นหลักการที่ง่ายมากแต่ก็ต้องมีวินัยมาก ๆ เช่นกัน
ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่าที่ทำได้
ถ้าระยะทางใกล้ ๆ เช่น จากที่ทำงานออกมาป้ายรถเมล์ หรือลงจากรถแล้วเข้าซอยบ้าน หรือใครที่นั่งแท็กซี่เป็นประจำจากที่เคยนั่งวินมอเตอร์ไซค์เป็นประจำ ลองเปลี่ยนมาเป็นเดินเรื่อย ๆ
ดูบรร ย ากาศ 2 ข้างทาง ถือโอกาสสำรวจเส้นทาง ร้านอ าห า รอร่อย ๆ หรือออกกำลังกายไปในตัว ประหยัดเงินค่าวินมอเตอร์ไซค์ ยิ่งถ้าเดินให้ถูกวิธี เผาผลาญแคลอรี่ไปได้เยอะมากเลยทีเดียว
แต่ถ้าใครกลัวช้าก็แนะนำให้ตื่นเช้าหน่อยรับอากาศดี ๆ ในตอนเช้า ก็จะเหลือเวลาให้เราได้เดินทางอย่างสะดวกและมีทางเลือกแถมประหยัดมากขึ้นด้วย
ชอปปิงให้น้อยลง เน้นของ S A L E ให้มากขึ้น
การชอปปิงเป็นเรื่องปกติของคนทำงาน เมื่อทำงานมาหนักก็อยากให้รางวัลตัวเอง ซื้อความสุขให้ตัวเอง หลายคนก็เลยติดการเ ส พความสุขทานของดี ของแพง ชอปปิง ฯลฯ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุ
หลักสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินไม่พอใช้จนถึงสิ้นเดือน ดังนั้นการจำกัดการใช้เงิน อาจทำได้โดยการทำบันทึกรายจ่าย การตั้งวงเงินในการใช้เงินเพื่อความสุข จะได้ใช้เงินอย่างสบายใจได้ตลอดจน
ถึงสิ้นเดือน ปัจจัยอีกข้อคือพ ย ายามซื้อของลดราคา สินค้าหรือบริการที่กำลังจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม เพื่อจะได้ประหยัดมากขึ้นแถมยังได้ของแถมกลับมาด้วย หรือมิเช่นนั้นก็จดรายการ
ของที่จำเป็นต้องซื้อจำพวกสบู่ ย าสระผม ย าสีฟั น และของใช้ส่วนตัวเอาไว้ เวลาจะซื้อสินค้าลองเดินสำรวจราคาในตลาดเปรียบเทียบคุณภาพ ปริมาณ และราคาก่อนตัดสินใจซึ่ง คุณจึงไม่จำเป็น
ต้องจ่ายราคาเต็ม ส่วนลดเล็กน้อยเหล่านั้นพอมารวมกันคุณก็จะมีเงินเก็บเพิ่มอีกโขเลย เคล็ดลับในการหาโปรโมชั่นเดี๋ยวนี้ง่ายมาก เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนเข้าโซเชียลมีเดีย ติดตามเพจข่าวส า ร
โปรโมชั่นต่าง ๆ คุณก็จะไม่พลาดโปรโมชั่นเด็ดแน่นอน
เก็บเงินออมอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เมื่อเรามีเงินออมเก็บเรื่อย ๆ ก็จะเป็นเงินก้อนที่เป็นทุนสำรองสำหรับอนาคตได้ อย่างไรก็ตามเราสามารถทำให้เงินก้อนนั้นมีประสิทธิภาพขึ้นมาได้ หรือการแบ่งออมเงินเพื่อกิจกรรมที่มีประโยชน์
หรือเพื่อให้รางวัลชีวิต เช่น การออมเพื่อการท่องเที่ยว การแบ่งเงินเพื่อการเลี้ยงดูและการศึกษาบุตร เป็นต้น เรามาดูการแบ่งเงินออมหลัก ๆ ที่เราควรรู้กัน
– เงินออมระยะยาว ได้แก่เงินที่ต้องการไว้ใช้ในยามฉุ กเ ฉิ นหรือไว้ใช้ในยามเกษียณ คิดเป็น 10% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งก็คือเงินที่แบ่งไว้หรือกันไว้ก่อนใช้เมื่อเงินเดือนออกนั่นเอง
– เงินสำหรับการล งทุ น ได้แก่ เงินที่จะนำไปลงทุนต่อยอดไม่ว่าจะเป็นการล งทุ นในหุ้น ธุรกิจเสริมขนาดเล็ก ส ล า กออมสิน กองทุนต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการลงทุนกับส ล า กกินแบ่งรัฐบาล
ก็สามารถใช้ได้คิดเป็น 10% ของรายได้ทั้งหมด ควรเป็นเงินอีกก้อนที่แบ่งไว้ต่างหากเพื่อการเหล่านี้โดยเฉพาะ
– เงินสำหรับให้รางวัลตัวเอง เงินในส่วนนี้ใช้เพื่อเป็นรางวัลให้กับตัวเราเองที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งเดือน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อโทรศัพท์ใหม่ ออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ควรเป็นเงินอีกก้อนที่
แบ่งไว้ต่างหากเพื่อการเหล่านี้โดยเฉพาะเช่นเดียวกับเงินด้านบน
– เงินออมสำหรับการท่องเที่ยว เมื่อเรารู้ว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว ก็จะต้องเริ่มเก็บเงิน ตั้งแพลนในใจไว้ว่าปะนี้จะไปไหนบ้าง แต่ละทริปไปกี่คน รวมค่าใช้จ่ายคนละ ประมาณเท่าไร
ลองนั่งคำนวณว่า แต่ละเดือนควรเก็บเงินเท่าไหร่ โดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากเกินไป พร้อมทั้งปรับลดรายจ่ายบางอย่างเพื่อให้เรามีเงินออมไปเที่ยวได้รวดเร็วขึ้น หัวใจ
สำคัญ คือ แยกเงินท่องเที่ยวไว้ต่างหาก เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับเงินส่วนอื่น ๆ เพื่อป้องกันการสับสน แล้วเผลอหยิบเงินออกมาใช้ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างและแนวทางเบื้องต้นที่จะให้ทุกคน
ใช้เงินได้อย่างสบาย ๆ และมีเหลือเก็บ เหลือใช้ แค่เพียงเรามีวินัยทำตามสิ่งนี้ให้ลุล่วง ชีวิตเราก็จะอยู่ดีกินดี ไม่มีความเครียดเพราะเงินไม่พอใช้ มีความสบายทั้งกายและใจทีเดียว
ขอบคุณที่มา : n c b.