Home ข้อคิด ถ้ามีความคิด อยากรวย ต้องไม่มี 7 ความคิดนี้อยู่ในหัว

ถ้ามีความคิด อยากรวย ต้องไม่มี 7 ความคิดนี้อยู่ในหัว

12 second read
0
0
5,507

หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักคุณ Robert Kiyosaki ผู้เขียนในหนังสือการเงินชื่อดังอย่าง Rich Dad Poor Dad เขาบอกว่าพ่อที่แท้จริงของเขานั้นมีความคิดแบบ “พ่อจน”

ส่วนพ่อของเพื่อนสนิทเขามีความคิดแบบ “พ่อรวย” ซึ่งเริ่มต้นด้วยเงินเพียงน้อยนิดแต่สามารถกลายเป็นหนึ่งในคนที่รวยที่สุดของฮาวายได้! ด้วยการที่เขาได้คลุกคลี

กับพ่อทั้งสองท่าน คุณคิโยซากิก็ได้เรียนรู้ว่าคำพูดของพ่อทั้งสองนั้นแตกต่างกัน เราลองมาดูกันว่า ถ้าอยากจะมี Mindset แบบคนรวย ต้องทำอย่างไร แล้วความคิด

แบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง?

พ่อจนบอกว่า “ฉันซื้อมันไม่ได้หรอก”

พ่อรวยบอกว่า “ฉันจะซื้อมันได้อย่างไร”

ประโยคของพ่อจนนั้นเป็นเพียงประโยคบอกเล่าที่ชวนให้ท้อถอยเสียเหลือเกิน แค่พูดคำนี้สม อ งก็ไม่ทำงานต่อแล้ว ส่วนประโยคของพ่อรวยนั้นเป็นคำถามที่กร ะตุ้ น

สมอ งให้คิดหาวิธีสร้างเงินเพื่อมาซื้อสิ่งนั้น ๆ แต่เดี๋ยวก่อน! ขาช้อปอย่าเพิ่งเฮไป นี่ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะซื้อทุกอย่างที่เราปรารถนา แต่ประเด็นอยู่ที่การฝึก

สม อ งให้คิดหาคำตอบเรื่อยๆ ต่างหาก ว่าจะหาทางสร้างเงินอย่างไร ไม่แน่ว่าพอเราได้เงินนั้นมาแล้ว เราอาจจะไม่ได้อยากได้ของชิ้นนั้นแล้วก็ได้

พ่อจนบอกว่า “ฉันทำงานเพื่อเงิน”

พ่อรวยบอกว่า “เงินทำงานให้ฉัน”

ความแตกต่างระหว่างคนรว ยกับคนธรรมดาอย่างหนึ่งก็คือวิธีที่พวกเขาได้รับเงิ น คนธรรมดาส่วนใหญ่ก็ทำงานแลกเวลาหาเงิ นกันไป เงิ นเดือนออกทีก็ชาบูที วิธีนี้

แม้จะการันตีว่าได้เงิ นแน่นอนแต่ถ้ามัวแต่ทำงานแบบนี้อย่างเดียวโดยไม่หาทางให้เงินงอกเงยทางอื่นเลย ก็อาจจะทำให้เงิ นไม่พอในอนาคต และมีความเสี่ย งหากเกิด

กรณีตกงานอีก ในขณะที่คนรวยนั้นส่วนใหญ่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทำงานแบบมีค่าคอมมิชชั่น หรือเลือกล งทุ นในสินทรัพย์ต่างๆ หลายคนอาจจะบ่นว่า โห มีเงิ นแค่นี้

จะให้มันทำอะไรได้ ไม่พอหรอก ซึ่งเราก็ปฏิเสธ แต่ชีวิตเราไม่จำเป็นต้องเลือกทางเดียว เราสามารถทำงานไปด้วย และให้เงิ นทำงานแทนเราไปพร้อม ๆ กันก็ได้

ผ่านการล งทุ นในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ หรือ สร้างธุรกิจเล็ก ๆ ที่พอจะสร้างกำไรให้เราได้ ควบคู่ไปด้วย สำหรับใครที่สนใจต้องการให้เงิ น

ทำงานผ่านการล งทุ นในกองทุนรวม สามารถทดลองสร้างแผนการล งทุ นกับ FINNOMENA ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือศึกษาเพิ่มเติมดูก่อนว่า FINNOMENA

ช่วยให้การล งทุ นง่ายขึ้นได้อย่างไรบ้าง

พ่อจนบอกว่า “เรื่องเงินทอง อย่าไปเสี่ยง”

พ่อรวยบอกว่า “จงเรียนรู้วิธีบริหารความเสี่ยง”

มีหลายคนที่กลัวความเสี่ย ง จึงเก็บเงิ นไว้กับตัวเอง นั่นเพราะพวกเขาอาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ ความเสี่ย งนั้นสามารถบริหารจัดการกันได้ คนรวยส่วนใหญ่ลงเล่นเกมการเงิ นก็เพื่อ

เอาชนะ ซึ่งพวกเขาต้องมีความกล้าได้กล้าเสียระดับหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็สามารถรับความไม่แน่ไม่นอนได้ นั่นหมายความว่า พวกเขาไม่ได้แค่หลับหูหลับตา

ก้าวเข้าไปสู้รบแบบไม่รู้เรื่องอะไร แบบนั้นอั นตร า ย พวกเขาต้องกล้าที่จะรับความเสี่ย งแบบชาญฉลาด ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และความรู้ระดับหนึ่ง ดังนั้น เพื่อที่จะให้ได้

ประสบการณ์และความรู้มากขึ้น เราก็ต้องลอง! ลองผิดลองถูกและเรียนรู้ทุกครั้งเมื่อสำเร็จหรือล้มเหลว สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้เรา และทำให้เราเข้าใจ

ความเสี่ย งมากขึ้น

พ่อจนบอกว่า “บ้านของฉันคือสินทรัพย์”

พ่อรวยบอกว่า “บ้านของฉันคือหนี้สิน”

หลายคนยังไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์และหนี้สิน ให้เราอธิบายง่ายๆ ละกัน สมมติเราตกงานวันนี้ สินทรัพย์คือสิ่งที่จะยังทำเงิ นให้เราได้ ส่วนหนี้สินจะดึงเงิ น

ออกจากเรา ในกรณีของบ้าน ซึ่งเป็นตัวอย่างข้างต้นนั้น เป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูง แต่กลับไม่ค่อยเพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไปสักเท่าไรนัก แถมเราอาจจะต้องจ่ายดอ กเบี้ ยเงิ น กู้

บ้านเรื่อยๆ ด้วย จึงทำให้บ้านกลายเป็นหนี้สินอย่างเห็นได้ชัด แต่ๆๆ ไม่ได้จะบอกว่าไม่ให้ซื้อบ้านนะ ถ้าซื้อด้วยความจำเป็นมันก็โอเค จุดสำคัญคือ เราต้องเข้าใจว่าสินทรัพย์

และหนี้สินต่างกันอย่างไร

พ่อจนบอกว่า “เรียนให้หนักเข้าไว้ จะได้ทำงานในบริษัทดีๆ”

พ่อรวยบอกว่า “เรียนให้หนักเข้าไว้ จะได้สามารถเป็นเจ้าของบริษัทดีๆ ได้”

เหล่าคนรว ยมักไม่กลัวที่จะคิดการใหญ่ พวกเขาจะตั้งความหวังไว้สูงๆ และคาดหวังว่าจะทำเงิ นได้เยอะๆ ในขณะที่คนธรรมดาทั่วไปคาดหวังว่าพวกเขาจะต้องลำบาก

และไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงมาก

พ่อจนบอกว่า “ฉันไม่มีวันรวยหรอก”

พ่อรวยบอกว่า “ฉันเป็นคนรวย”

แม้ว่าพ่อรวยของคุณคิโยซากิจะเจอภาวะล้ มล ะลา ย เขาก็ยังเรียกตัวเองว่า “ค นรว ย” โดยเสริมว่า ความแตกต่างระหว่างการล้ มละล า ยกับความจนก็คือ การล้ มละลา ยน่ะ

มันแค่ชั่วคราว แต่ความจนน่ะคือตลอดไป”

พ่อจนบอกว่า “ฉันไม่สนใจเรื่องเงินหรอก”

พ่อรวยบอกว่า “เงินคืออำนาจ”

พวกเราส่วนใหญ่มักถูกสอนให้เรียนดีๆ หางานดีๆ และจงพอใจในชีวิตที่เรามีอยู่เสีย จะว่าเป็นความคิดที่ดีมันก็ดี มันทำให้เราไม่โลภอยากได้อะไรเกินตัวเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน

มันก็อาจจะปิดกั้นศักยภาพบางอย่างของเราที่อาจจะเติบโตได้อีก ในทางตรงกันข้าม คนรวยจะคิดถึงเรื่องเงิ นแบบเป็นขั้นเป็นตอน และมองเงิ นว่าเป็นเครื่องมือที่มีอำนาจซึ่ง

สามารถนำมาซึ่งตัวเลือกและโอกาสต่างๆ ได้ พูดง่ายๆ คือ ไม่ว่าเงินจะถูกมองไม่ดีอย่างไร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีเงิ นเยอะๆ ก็ถือเป็นแต้มต่อให้ชีวิตจริงๆ

ขอบคุณที่มา : f i n n o m e n a.

Load More Related Articles
Load More By FahFah FahFah
Load More In ข้อคิด

Check Also

คนที่มีความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ทำไมมักมีสิ่งที่มองไม่เห็น คอยช่วยเสมอ

พ่อแม่ของเรา มีพระคุณเหนือกว่าขุนเขา เหนือกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ แม้จะเอาแบกไว้ไหล่ซ้าย ขวา ทั…