Home เรื่องน่ารู้ “ถ้าต้องมาตกงาน” ตอนวัยกลางคน 8 สิ่งที่คุณต้องทำ

“ถ้าต้องมาตกงาน” ตอนวัยกลางคน 8 สิ่งที่คุณต้องทำ

0 second read
0
0
9,900

ด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ หลายคนคงจะหวั่นกับ ค ว า ม เ สี่ ย ง ที่จะตกงาน หรือถูกเลิกจ้างเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่บางคนที่ตัดสินใจลาออกจากเองเพราะรู้สึก ไม่มีความสุขกับ

การทำงาน แต่ก็ต้องมานั่งกลุ้มใจทีหลังกับค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สินที่แบกไว้ วันนี้เราจะมาบอกสิ่งที่ต้องทำ หลังจากออกจากงาน หรือถูกเลิกจ้าง ว่าควรทำทำอย่างไรต่อไป

1. ตรวจสอบสภาพการเงินของคุณ

เมื่ออยู่ในสถานะว่างงาน การตรวจสอบสภาพการเงินของคุณ ในปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญคุณต้องคำนวณถึงรายจ่ายและภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายทุกเดือน และมองหารายได้ ที่ยังเหลืออยู่ว่า

เพียงพอหรือไม่ อย่างไรเพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวและรับมือกับสถานการณ์การเงินของคุณได้ถูกต้อง รายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็น ก็ให้เอาออกไป เพื่อ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้สมดุลกับการเงินปัจจุบัน

2. ติดต่อประกันสังคม

หากคุณว่างงาน สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือการจัดการเรื่องประกันสังคม ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะว่างงาน จากการลาออกเองหรือถูกไล่ออก ต้องรีบไปติดต่อสำนักงานประกันสังคม เพื่อรั กษ า

สิทธิ และประโยชน์ที่เราพึงจะได้รับ

3. เคลียร์เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

สำหรับเรื่องเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หากคุณเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คุณก็จะได้ประโยชน์จากเงินสะสม โดยสามารถรับเป็นเงินก้อนได้เวลาออกจากงานก็ จะมีเงินก้อนไว้

สำรองเลี้ยงชีพ แต่หากคุณยังไม่ได้จำเป็นที่จะใช้เงินก้อนนี้ ก็อาจจะคงเงินไว้ในระบบก่อนเพื่อรอ โ อ น ย้ า ย ไปยังกองทุนของบริษัทใหม่ในอนาคต แต่หากคุณออกจากกองทุนโดยที่

ยังไม่เกษียณอายุ คุณอาจจะเสี ยผลประโยชน์จากเงินสมทบที่จะได้รับไม่เต็มจำนวนดังนั้นควรศึกษาเงื่อนไขต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เสี ยเปรียบผลประโยชน์ที่คุณควรจะได้รับ

4. เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน

หลังจากตรวจสอบ การเงินของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณจะทราบถึง ทิศทางการเงินของคุณ ระหว่างรายได้กับรายจ่าย แน่นอนว่ารายได้ของคุณลดลงดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ การปรับเปลี่ยน

พฤติกรรม การใช้เงินอย่างเร่งด่วนต้องลดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยออกไปให้หมด และจ่ายให้น้อยลงสำหรับ สิ่งที่จำเป็นในส่วนของค่าใช้จ่าย หรือภาระหนี้สิน ที่คุณต้องจ่ายนั้น ให้เลือกลด

เป็นอันดับสุดท้ายเพราะมันจะมีผลกระทบต่อเครดิตและความน่าเชื่อถือของคุณ เป็นการเรียงลำดับความสำคัญในการเลือกที่จะใช้จ่ายนั่นเอง

5. มองหางานใหม่

หลายคนเมื่อว่างงาน ก็มักจะรีบเร่งหางานใหม่ทันที โดยที่ไม่ได้มองถึง ความชอบของงานจริงๆ กลายเป็นว่าทำได้ไม่นาน ก็ต้องลาออกมาหางานใหม่อีกเหมือนเดิมแน่นอน ว่าการหางาน

ที่ชอบ ทำแล้วมีความสุข กับเพื่อนร่วมงานและสภาพแวดล้อมที่ทำงานดีๆ รวมถึงผลตอบแทนที่น่าพอใจนั้นหายากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรการจะ ทำงานและอยู่กับมันให้ได้นานๆ

ก็ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก คือ เ นื้ อ ห า ของงาน รายได้ และผู้ร่วมงาน หากใครมีความพอใจต่อสิ่งเหล่านี้ได้ 2 ใน 3 อย่าง ก็จะสามารถ ทำงานนั้นได้อย่าง ย า ว น า น และไม่ต้องเปลี่ยนงาน

บ่อยๆดังนั้นเราควรที่จะมองหาสิ่งที่ตรงกับความต้องการ ของตัวเองและสามารถอยู่กับมันได้นานๆ โดยที่ไม่ต้อง กลับมาตกอยู่ในสถานะว่างงานอีก

6. เก็บรักษาเงินก้อน

หากว่างงาน และได้เงินก้อน อย่าเพิ่งรีบร้อนใช้เงินเงินก้อนนี้ หรือแม้แต่ จะนำไปปลดหนี้ เพื่อหวังลดภาระหนี้สินวิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับเงินก้อนนี้อย่างชาญฉลาด คือการนำเงินก้อนนี้

มาแบ่งสรรปันส่วน จัดสรรเงินเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพและการจ่ายคืนหนี้ได้ตามกำหนด ไว้ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันค่าบ้าน ค่างวดรถ ค่าบัตรเครดิตและอื่นๆ คุณควรที่

จะกันเงินสำรองนี้ รวมถึงเงินส่วนอื่นๆ ที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติไปอีก 6 เดือนเป็นอย่างน้อยเพื่อให้แน่ใจว่า คุณจะสามารถอยู่ได้อย่างปกติ จนกว่าจะหางานใหม่ทำได้

7. ทำงานฟรีแลนซ์

หลายคนมีความฝันที่อยากจะทำงานอิสระ ไม่ต้องไปเป็นลูกน้องรับคำสั่งจากใคร หรือคอยรองรับอารมณ์ใคร แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นได้ อย่างที่หวังด้วยเหตุผลเรื่อง ความมั่นคง และ

ความแน่นอนของรายได้ จึงทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการดังนั้นเวลาว่างงาน จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้เราได้ลอง ทำในสิ่งที่อยากจะทำ และยัง

เป็นการหารายได้ให้ตัวเองโดยอาจจะเริ่มจากรับงานฟรีแลนซ์เล็กๆ ที่สามารถทำคนเดียวได้ และเมื่อพบลู่ทางจะได้สามารถนำมาเป็น อาชีพหลักที่สร้างรายได้หลักให้กับเรา โดยที่ไม่ต้อง

กลับไปเป็นพนังงานเงินเดือนอีกต่อไป

8. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

ถึงแม้ว่าเรากำลังตกอยู่ในสถานะคนว่างงาน ก็ใช่ว่าเราจะต้องปล่อยเวลาทิ้งไปให้เปล่าประโยชน์ หรือตระเวนหาแต่งานใหม่ จนลืมไปว่าสิ่งสำคัญอีกอย่างในการที่ จะเริ่มต้นการทำงานใหม่

คือ ศักยภาพที่สูงขึ้นของเราเองเราควรมีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องของภาษาต่างประเทศหรือทักษะการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ

การทำงานในทุกสายงานปัจจุบันไปแล้วนอกจากนี้ การพัฒนาศักยภาพตัวเองในด้านวิชาชีพตามความต้องการในสายงานที่จะทำ ก็จำเป็นและมีผลต่อการพิจารณารับเราเข้าทำงานเป็น

อย่างมากเราจึงไม่ควรปล่อยช่วงเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ใช้เวลาที่ว่างงานนี้แหละ มองหาโอกาสพัฒนาตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมกับการทำงานในอนาคต

ขอบคุณที่มา : คุณมนตรี ศรีวงษ์ุ

Load More Related Articles
Load More By FahFah FahFah
Load More In เรื่องน่ารู้

Check Also

คนที่มีความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ทำไมมักมีสิ่งที่มองไม่เห็น คอยช่วยเสมอ

พ่อแม่ของเรา มีพระคุณเหนือกว่าขุนเขา เหนือกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ แม้จะเอาแบกไว้ไหล่ซ้าย ขวา ทั…