หากใครที่ทำงานมานานแต่ยังเก็บเงินไม่ได้สักที เงินเข้ามาเท่าไหร่ก็ละลายหายไปหมด แต่ไม่ต้องกลัว วันนี้ ขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ 6 JARS MONEY MANAGEMENT หรือ
วิธีบริหารเงินแบบ 6 กระปุกซึ่งเป็นวิธีการบริหารเงินที่เราได้รับมาในแต่ละเดือน โดยเป็นการแบ่งเงินออกเป็น 6 ส่วน ซึ่งคิดค้นโดย T Harv Eker ผู้เขียนหนังสือ Secrets of the
Millionaire Mind (ถอดรหัสลับ สมองเงินล้าน) เขาบอกว่าเมื่อได้เงินมาแล้วให้แบ่งเงินเป็น 6 ส่วน ดังนี้
กระปุกที่ 1 เงินสำหรับลงทุน 10%
เหตุผลที่ยกกระปุกนี้มาเป็นกระปุกแรกเพราะเป็นเงินที่เราจะเอาไว้ใช้ในการล งทุ นเพื่อเกษียณอายุ เป็น “สิ่งสำคัญที่ไม่เร่งด่วน” โดยกระปุกนี้จะนำไปลงทุนในรูปแบบตามที่เราชอบ
เช่น กองทุน, หุ้น, สลากออมสิน, ทองคำ เป็นต้น เป็นกระปุกที่ห้ามนำเงินออกมาใช้เด็ดขาด ทุกบาท ทุกสตางค์ ต้องใช้เพื่อลงทุนเท่านั้น
กระปุกที่ 2 เงินเพื่อการพักผ่อน 10%
กระปุกนี้ Radars Man ขอเรียกว่า “กระปุกสายเปย์” คือเป็นกระปุกที่เอาไว้เติมเต็มความสุข เป็นการให้รางวัลของชีวิตหลังจากทุ่มเทกับการทำงาน เช่น ดูหนัง เติมเกม กินบุฟเฟ่ อะไรก็ได้
ที่เราชอบ เราจะถือว่าเงินส่วนนี้มีไว้ใช้ ก็ใช้ให้เต็มที่
กระปุกที่ 3 เงินออมระยะยาว 10%
กระปุกนี้เอาไว้เป็นเงินออมระยะยาว เช่น เก็บเงินดาวน์บ้าน เก็บเงินไว้ท่องเที่ยวต่างประเทศ เงินเพื่อการแต่งงาน หรือเงินเพื่อการศึกษาบุตร เป็นการสะสมเงินก้อนเอาไว้ เผื่อเวลาที่
คุณจำเป็นจะต้องใช้เงินจะได้ไม่ต้องกู้ยืม จะเรียกว่า “เงินสำรองฉุกเฉิน” ก็ได้
กระปุกที่ 4 เงินเพื่อการเรียนรู้ 10%
อันนี้เป็นกระปุกเพื่อเก็บไว้ใช้ในการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เช่น การซื้อหนังสือ ค่าสัมมนาอบรม หรือซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ต่างๆ เป็นการลงทุนเพื่อตัวเอง เพื่อให้เราเพิ่มทักษะต่างๆ
มากยิ่งขึ้น ทำให้เราสามารถนำความรู้ไปต่อยอดเพื่อเพิ่มรายได้ของเราในอนาคต
กระปุกที่ 5 เงินเพื่อการให้ 5%
กระปุกเพื่อการให้ จะเป็นการนำเงินไปให้ผู้อื่น เพื่อแบ่งปันคืนสู่สังคม เช่น ซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อน ใส่ซองผ้าป่า ซื้อของให้เด็กยากไร้ นำไปบริจาคมูลนิธิต่างๆ เป็นต้น
กระปุกที่ 6 เงินเพื่อการใช้จ่าย 55%
เงินส่วนนี้จะเป็นเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าอาหาร ค่าน้ำไฟ เป็นเงินที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั่นเอง เป็นเงินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แต่เป็นสิ่งจำเป็น
อย่าหั กโห ม
แม้เราจะมีอัตราส่วนคร่าวๆให้ดูแล้ว แต่บางคนเริ่มครั้งแรกอาจจะเปลี่ยนให้เป็นไปตามนี้เป๊ะๆ ทันทีไม่ได้ จึงควรค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับวิธีบริหารเงินแบบนี้ อย่าหักดิบ อย่าโหม เพราะถ้า
หักดิบเลยโอกาสที่เราจะ ต บ ะแ ต กแล้วกลับมาใช้จ่ายเหมือนเดิมได้อีก ดังนั้นค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปครับ
เริ่มก่อน รวยก่อน
จะเห็นว่า 6 Jars Money Management หรือวิธีบริหารเงินแบบ 6 กระปุก สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก ถ้าวันนี้คุณเป็นคนหนึ่งที่คิดจะปรับ
เปลี่ยนนิสัยทางการเงิน และอยากจะสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ดีไว้ตั้งแต่วันนี้จนถึงยามเกษียณ
ขอบคุณที่มา : s t o c k r a d a r s .
